• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2908073_อย าล มกล บบ านไปหาพ อแม เม อม โอกาส_part2

admin79 by admin79
August 27, 2025
in Uncategorized
0
N2908073_อย าล มกล บบ านไปหาพ อแม เม อม โอกาส_part2

KIA

Kia Carnival เปิดตัวรุ่นใหม่ถอดด้าม ในราคา 2,144,000-2,459,000 บาท มีจุดเด่นที่รูปทรงภายนอก เปลี่ยนจากมาดเรียบๆไปหาดีไซน์ดุแบบหุ่นยนต์ยักษ์ แต่ภายในนั้นหรูหรา มีเอกลักษณ์บางอย่างที่ดูแล้วนึกถึงรถยุโรป เช่นแผงหน้าปัดเชื่อมต่อฝั่งคนขับกับจอกลาง คันเกียร์แบบโยกถูกเปลี่ยนเป็นสวิตช์สำหรับเปลี่ยนเกียร์แบบหมุนคล้ายกับของ Jaguar แต่ในเรื่องความอเนกประสงค์ก็ยังคงอยู่ จุดชาร์จ USB มีมาให้ในเบาะแถว 1, 2 และ 3 ไม่ต้องแย่งกันชาร์จ ระบบความปลอดภัยเพียบพร้อมทั้งระดับเบสิกอย่างกันลื่น ระบบการทรงตัว ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบ Radar Cruise Control พร้อม Stop & Go และระบบแจ้งเตือนรถเบี่ยงออกนอกเลน

Kia Carnival ใหม่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร ที่ให้กำลัง 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

สำหรับลูกค้าที่ต้องการรถ 11 ที่นั่งแบบประหยัดงบ ทาง Kia เอง ก็ยังขาย Carnival รุ่นเก่า ประกอบเวียดนาม ราคา 1,397,000 บาท ควบคู่ไปในขณะที่รุ่นใหม่ทำตลาด


MASERATI

ใหม่สุดเพราะเพิ่งเปิดตัวในงานนี้เลย กับ Maserati Ghibli Hybrid ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวรถไฮบริดลงสู่ตลาดในประเทศไทยของค่ายนี้ ขุมพลังของ Ghibli Hybrid จะแตกต่างจากรุ่นอื่น นอกจากจะเปลี่ยนจากเครื่อง V6 เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ 2.0 ลิตรแล้ว ก็ยังมีระบบเสริมกำลังด้วยไฟฟ้า “e-Booster” และระบบไฟฟ้าแบบ 48 V ซึ่งทำให้ได้กำลังรวม 330 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร น้ำหนักรวมทั้งคัน เบากว่ารุ่นดีเซล 80 กิโลกรัม และยังมีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า คือ 5,990,000 บาท


MAZDA

นอกจากบรรดา 2, 3 และ CX-30 รุ่นฉลองครบรอบ 100 ปี Mazda ซึ่งเป็นรถสีขาวเบาะแดง (ของจริงดูแล้วก็สวยนะ) ไฮไลท์ในงานนี้ของ Mazda ตามธรรมเนียมการอัปเดตรายปี ก็คือ Mazda CX-3 ซึ่งแต่เดิมนั้น รุ่น 2.0 BASE ราคา 768,000 บาทนั้น ก็กลายเป็นรถเก๋งขนาด 2.0 ลิตร ที่ถูกที่สุดในประเทศไปแล้ว มาถึง Model Year 2021 Mazda บอกว่า ขอเพิ่มราคาอีกสักพันนะ แต่ว่าเพิ่มของใส่ให้อย่างโคตรเสียดายแทนคนที่ออกไปก่อน ไม่ว่าจะเป็น Smart Keyless Entry พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง เครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay/Android Auto แบบ Wireless และกล้องมองภาพขนาดถอยจอด

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ BASE+ จ่ายเงิน 809,000 บาท สิ่งที่คุณได้จะเหมือนรุ่น BASE แต่เพิ่มไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด/ปิดอัตโนมัติ ไฟท้าย LED Signature เบาะหุ้มหนังสลับผ้า เพิ่มถุงลมเป็น 6 ตำแหน่งและมี Cruise Control ใกล้ปลายอายุตลาดแล้ว ก็ต้องขยับกันแบบนี้เพื่อรักษาฐานยอดขายเอาไว้


MERCEDES-BENZ

สามรุ่น Entry Model สำหรับการเข้าเป็นลูกค้าดาวสามแฉกป้ายแดง ไม่ต้องรวยก็ซื้อได้ ได้แก่ GLA และ A-Class Sedan ทั้งหมดนี้เป็นรถประกอบในประเทศ

เริ่มต้นด้วย GLA 200 AMG Dynamic ราคา 2,399,000 บาท ตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG ล้ออัลลอย 19 นิ้ว สี Tremolite Grey ช่วงล่างสเป็คมาตรฐานแบบลดความสูงลด (Lowered Comfort Suspension) รูปทรงของตัวถัง ถูกปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนของ GLA รุ่นเดิมเรื่องพื้นที่ในห้องโดยสารให้มีความรู้สึกโปร่งโล่งขึ้น ตำแหน่งการนั่ง และพื้นที่วางขา แตกต่างจาก A-Class Hatchback มากขึ้น ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เวอร์ชั่นไทย มีเบาะไฟฟ้าคู่หน้ามาให้ และมีระบบ Keyless GO แต่ยังขาด Smart Entry จอกลางขนาด 10.6 นิ้ว และไฟ Ambient Light 64 สี

ต่อมาก็ได้แค่ A 200 ซึ่งมีทั้งรุ่น Progressive ราคา 1,990,000 บาท และรุ่น AMG Dynamic ราคา 2,150,000 บาท (ถูกลงกว่าสมัยนำเข้า 340,000 บาท) มีการเปลี่ยนระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ แต่ตัดช่องแอร์คนนั่งหลัง และตัดระบบไฟสูงอัตโนมัติออก นอกนั้นอุปกรณ์ต่างๆเกือบเหมือนเดิม

ทั้ง GLA 200 และ A 200 ใช้เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร 4 สูบเบนซิน เทอร์โบ 163 แรงม้า จับคู่กับเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ


MG

กลายเป็นผู้เล่นระดับ Mass Market ที่จริงจังเรื่องพลังงานทางเลือกมากที่สุด เพราะนอกจากจะมี ZS EV ขายมานานแล้ว เปิดตัว HS PHEV Plug-in Hybrid ราคาถูกที่สุดในวงการไปแล้ว มางานนี้ MG เดินหน้าลุยดงรถถ่านเต็มพิกัด ด้วยการเปิดตัว MG EP ซึ่งได้สโลแกนว่าเป็น “EV for Everyone” รถยนต์ไฟฟ้าที่ขนาดตัวไม่เล็ก แต่ราคาไม่ใหญ่ 988,000 บาท มีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน ต้องการหารถที่ค่าใช้จ่ายต่ำ โดยทาง MG คำนวณมาว่าใช้งาน 100,000 กิโลเมตร ค่าบำรุงรักษาตัวรถ ไม่นับค่าไฟฟ้าแล้วไม่เกิน 8,000 บาท

MG EP ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนที่ให้พลัง 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุไฟฟ้า 50.3 kWh เมื่อชาร์จเต็มหม้อจะสามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 380 กิโลเมตร (ของจริงต้องลองอีกรอบว่าได้เท่าไหร่บนถนนที่โหดแบบเมืองไทย)

ส่วนรถที่เพิ่งเปิดตัวก่อนหน้า Motor Expo ไม่นาน อย่าง MG HS PHEV ก็มีการนำมาโชว์ในงานนี้เช่นกัน  ขุมพลัง 1.5 ลิตรเทอร์โบ 162 แรงม้า บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า MG แจ้งสเป็คว่าได้กำลังขับรวม 284 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 480 นิวตันเมตร อุปกรณ์ครบครันแบบ HS ตัวท้อป เพิ่มภายในสีน้ำเงิน (มีเฉพาะกับสีภายนอกบางสี) และเครื่องเสียง BOSE ราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,359,000 บาท


MITSUBISHI

วินาทีนี้ มีแต่คนพูดถึง Mitsubishi Outlander PHEV รถถ่าน SUV รุ่นล่าสุดจากญี่ปุ่น ซึ่งมาให้เลือก 2 รุ่นย่อย กับราคา 1,640,000-1,749,000 บาท

Outlander PHEV ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 4 สูบ 4B12 128 แรงม้า ธรรมดาๆ แต่เพิ่มพลังด้วยมอเตอร์ชุดแยก ด้านหน้า 82 แรงม้า และด้านหลัง 95 แรงม้า ทาง Mitsubishi ก็เอาเลขบวกๆกันแล้วได้พลัง 305 แรงม้า แบตเตอรี่ที่ใช้ เป็นแบบ Lithium-ion ความจุ 13.8 kWh ซึ่งทำให้สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลสุด 55 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ S-AWC Super All-Wheel Control สามารถสั่งล็อคให้ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาได้ (ตามเงื่อนไขการขับขี่) และยังมี Snow Mode เผื่อเมืองไทยหิมะตก, Normal และ Sport Mode ไว้ให้ใช้ ส่วนในด้านความปลอดภัย ก็มีระบบเตือนหน้าเตือนหลัง กล้องรอบคันมาให้พร้อมสรรพ

การจะขาย Outlander ให้สำเร็จนั้น ผมคิดว่าต้องใช้พลังศรัทธาจากลูกค้าพอสมควร เพราะรถโมเดลตัวถังนี้ จำหน่ายในญี่ปุ่นมานานพอสมควรแล้ว และประกอบกับการที่ MG ชิงเผยโฉมกับราคาของ HS PHEV มาก่อนหน้านี้ ทำให้ลูกค้ามีตัวเปรียบเทียบที่โหดพอดู


NISSAN

นอกเหนือจาก Nissan Navara Minorchange ที่เพิ่งเปิดตัวไปแล้ว ในงานนี้ ก็ยังมีการอัปเดตผลิตภัณฑ์ 2 รายการ อย่างแรกก็คือการเพิ่มสีใหม่ให้กับ Nissan Kicks ซึ่งเป็นสีเหลือง ซันไลท์ (Sunlight Yellow) และสีน้ำเงิน ไนท์บลู (Night Blue) พร้อมเสริมภายในด้วยชุดแต่ง สไตลิช Stylish package ด้วยไฟ Ambient Light สีฟ้าที่ข้างแผงประตูและพื้นห้องโดยสารตอนหน้า พร้อมไฟ ‘Welcome’ เมื่อเปิดประตูหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งวัสดุสีเงินบริเวณแผงอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ มาในราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่บอกไว้ให้เสียใจนิดๆว่า รถสองสีใหม่นี้ ไม่มีหลังคาดำ และไม่สามารถสั่งภายในสีส้ม/ดำ ได้จากโรงงานนะครับ คงต้องให้ดีลเลอร์เจ๋งๆช่วยจัดแล้วล่ะ

ส่วน Almera ขายมานานจะครบปีแล้ว คราวนี้ก็เลยแต่งองค์ทรงเครื่องนิดหน่อยด้วยรุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด “Almera N-Sport” มีสีภายนอกแบบทูโทน ได้แก่ สีส้ม โมนาร์ช และ สีเทา กันเมทัลลิค มาพร้อมชุดไหว้ของดำ ได้แก่หลังคาสีดำ กระจกมองข้างสีดำ กระจังหน้าและแถบสปอยเลอร์หลังสีดำ รวมถึงสติกเกอร์ตกแต่งที่ด้านข้าง และตราสัญลักษณ์ตกแต่ง N-SPORT  ที่ด้านท้ายรถ ขณะที่ภายในเสริมความสปอร์ตด้วยแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต บันไดประตู พรม และตราสัญลักษณ์ตกแต่ง N-SPORT ที่พวงมาลัย ส่วนล้ออัลลอยนั้น ไปยืนๆมองอยู่ ไม่แน่ใจว่ายกมาจากของ Nissan Note พ่นดำเลยหรือเปล่า ใครก็ได้ลองช่วยไปเล็งที


PORSCHE

Porsche ในประเทศไทยเพิ่งเผยโฉม Panamera Minorchange ไป ในงานนี้ จึงมีการนำ Panamera GTS สีส้มมาจอดโชว์ ส่วนรุ่นอื่นๆไม่ต้องห่วง โดยเฉพาะ Taycan มาครบเลยทีเดียว

Panamera GTS เป็นรุ่นที่สอดอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น S เครื่อง V6 และรุ่น Turbo ที่เป็นเครื่อง V8 โดย GTS นั้นจะเป็นการนำเครื่อง V8 4.0 ลิตรทวินเทอร์โบของรุ่น Turbo มาปรับลดแรงม้าลงเป็น 480 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร รถสเป็คไทยจะมีประตู Soft Close พวงมาลัย GT-Spec เบาะนั่ง Adaptive Sport 18 Way  ถ้าสั่ง Premium Plus Package ซึ่งจบราคารถที่ 15.5 ล้านบาท จะได้สีเมทัลลิก หลังคา Panoramic และล้อ 21 นิ้ว กับ…ที่วางแก้ว

อย่างไรก็ตาม รถที่ทางประเทศไทยมุ่งเน้นการขายมากกว่า คือ Panamera 4 e-Hybrid ซึ่งใช้ขุมพลัง 2.9 ลิตรทวินเทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า แรงม้าสูงสุด 462 แรงม้ แรงบิด 700 นิวตันเมตร ซึ่งมีการปรับ Position และราคาใหม่ ทำให้รถ 4 e-Hybrid มีราคาเริ่มต้นแค่เพียง 7,300,000 บาท และถ้าหากสั่ง Premium Plus Pack ก็เพิ่มเป็น 7,750,000 บาท แต่ได้ไฟหน้า PDLS, ล้อ 21 นิ้ว, ชุดชาร์จ 7.2kW, สีเมทัลลิก และหลังคา Panoramic ด้วย


SUZUKI

Suzuki ทำงานหนักมากในปีที่ผ่านมา หลังจากการเปิดตัวรถ 7 ที่นั่งยกสูงอย่าง XL7 ก็ได้ผลตอบแทนงดงาม โดยหลังจากเปิดตัวจนถึงเดือนพฤศจิกายน ก็สามารถขายไปได้ 3,454 คัน ด้วยกลยุทธ์การให้ของเล่นติดรถที่ดูคุ้มค่า กับราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในขณะที่สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายก็ไม่เป็นรองใคร ในงาน Motor Expo นี้ ก็ยังมี Suzuki Swift GL MAX Edition รุ่นตกแต่งพิเศษ ด้วยชุดสเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลัง สติ๊กเกอร์ลายพิเศษรอบคัน และเสาอากาศครีบฉลาม ซึ่งน่าจะเป็นการตกแต่งในรูปแบบคล้ายกันกับ Ciaz รุ่นพิเศษเมื่อปีก่อนๆ โดยนำการสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าว่า เวลาซื้อรถชอบขอของแถมอะไรกัน แล้วก็จัดมาให้เลยโดยไม่ต้องขอเพิ่มในราคาเพียง 541,000 บาท


TOYOTA/LEXUS

เด็ดที่สุดของเมืองในเวลานี้ ต้องเป็นเจ้าพริกขี้หนู GR Yaris เครื่องยนต์ G16E-GTS มีแค่ 3 สูบ แต่ความจุ 1.6 ลิตร เป่าเสกพลังม้าด้วยเทอร์โบชาร์จ จนได้ 261 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งตอนแรกมีข่าวว่าราคาจะทะลุ 3 ล้าน แต่ไปๆมาๆ Toyota ประเทศไทยบอกว่ารับจองนะจ๊ะ และราคาไม่เกิน 2.7 ล้านด้วย! แต่ต้องรีบหน่อยเพราะมีโควต้าแค่ 70 คันเท่านั้น เรียกได้ว่า ราคานี้นะครับ คนที่บอกว่าแพง คือคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขาอยู่แล้ว แต่คนที่พร้อมจะซื้อของแปลกหายาก มีแน่นอนและเชื่อว่าโควต้าน่าจะหมดอย่างเร็ว

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ GR Yaris สามารถปรับการส่งกำลังได้สามแบบ Normal ส่งกำลัง หน้า 40 หลัง 60% Sport จะถ่ายกำลังไปล้อหลังมากขึ้นเป็น 70% ส่วนแบบ Track ที่ต้องการความชัวร์ในการเข้าโค้งแบบสุดๆหรือการขับแบบแรลลี่ จะถ่ายกำลังหน้า/หลังแบบ 50/50

นอกจากรถสำหรับคนมีความพิเศษในทางการเงินอย่าง GR Yaris แล้ว ในบรรดารถทั่วไปที่นำมาโชว์ก็มี Innova Crysta ใหม่ และ Toyota Revo Z-Edition ซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรใหม่ แต่เอ๊ะ โป่งข้างแบบเย็บหายไปแล้วนี่หว่า ทั้งๆที่ Z-Edition ตัวล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ รุ่น SmartCab ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 619,000 บาท และรุ่น Double Cab เริ่มต้นที่ 699,000 บาท มีเกียร์อัตโนมัติให้เลือกทั้งสองตัวถัง

ฝั่ง Lexus ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะในช่วงเวลาไม่กี่วันเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น เริ่มต้นจาก Lexus IS สปอร์ตซีดานคู่แข่ง 3 Series และ C-Class บอดี้ใหม่ สวยและโหดกว่าเดิม ยกเลิกรุ่น IS300 (IS200t) ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ เหลือแค่รุ่น IS300h ไฮบริด เครื่องยนต์ 2AR-FXE 2.5 ลิตร 4 สูบ บวกมอเตอร์ไฟฟ้าและใช้แบตเตอรี่ Ni-MH ให้พลังรวมสูงสุด 223 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ e-CVT และล็อคความเร็วสูงสุดไว้ที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Luxury 2,690,000 บาท รุ่น Premium 3,370,000 บาท และรุ่น F-Sport ราคา 3,890,000 บาท นับว่าต่างกันมาก รุ่นเริ่มต้นกับตัวท้อป ราคาห่างกันถึง 1,200,000 บาท!

ต่อมา คือ Lexus UX รถครอสโอเวอร์พิกัดเดียวกับ BMW X2 คราวนี้ เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ UX300e ที่เป็นขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีวัวหรือเครื่องสันดาปภายในเจือปน มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังขับเคลื่อน 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรีลิเธียมไออ้อน ความจุพลังไฟ 54.35 kWh เมื่อชาร์จเต็มหม้อแล้วสามารถวิ่งได้ไกล 300 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP (โหดกว่ามาตรฐาน NEDC) ราคาจำหน่ายตั้งเอาไว้ที่ 3,490,000 บาท

และปิดท้ายด้วย Lexus LS Minorchange อัครยานยนต์ระดับหรูคู่แข่ง 7 Series กับ S-Class ที่แข่งในทุกด้านยกเว้นราคา ขนาดตัวเริ่มต้น LS 350 เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 315 แรงม้า ก็ปาเข้าไป 11,500,000 บาท แล้ว ส่วนรุ่น LS 500 3.4 ลิตรเทอร์โบคู่ 421 แรงม้านั้น อยู่ที่ 13,110,000 บาท รุ่น LS500h พลังไฮบริด  3.5 V6 บวกมอเตอร์ 2 ตัว แบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อน 359 แรงม้า ก็มีสองรุ่นคือ Executive ราคา 14,530,000 บาท และ Executive Pleat ราคา 15,860,000 บาท

แต่ถ้าใครเคยได้สัมผัสตัวจริง จะรับรู้ถึงรายละเอียดภายในอันประณีต และมีเอกลักษณ์ในแบบที่เราพบไม่ได้ในรถยุโรป นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ LS นั้นแม้จะแพงจนซื้อ Porsche Panamera ได้สบาย ก็ยังมีคนที่เลือก LS มาขับ ถึงแม้จะไม่เยอะนักก็เถอะ

VOLVO

สู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาดเต็มรูปแบบ รีแบรนด์ตัวเองให้สื่อถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เป็นคำสั้นๆว่า “Recharge” มาคราวนี้ Volvo ประเทศไทย ชูสองรุ่นไฮไลต์ XC40 Recharge Plug-in Hybrid T5 ซึ่งเป็นครอสโอเวอร์ขนาดกระทัดรัด ทำตลาดแทน XC40 เครื่องเบนซินเทอร์โบเดิม และอีกรุ่นก็คือ S90 Recharge Plug-In Hybrid T8 Inscription

XC40 Recharge T5 นั้น มากับขุมพลัง 1.5 ลิตรเทอร์โบ 3 สูบ 180 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า ทำให้ได้แรงม้าสูงสุด 262 แรงม้า 425 นิวตันเมตร แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไออ้อน ความจุไฟ 10.7 kWh ส่วนระบบความปลอดภัยต่างๆนั้นยังอยู่ครบ รวมถึงระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Pilot Assist ด้วยเช่นกัน มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ R-Design Expression 2,090,000 บาท R-Design 2,390,000 บาท และ Inscription ราคา 2,390,000 บาทเช่นเดียวกัน

ส่วน S90 Recharge นั้น ใช้ขุมพลังเดิม แต่มีการอัปเดตรายละเอียดส่วนหน้าและท้ายของรถเล็กน้อย ยังใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ บวกกับมอเตอร์ที่ให้พลังรวม 407 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อน ความจุ 11.6 kWh และในราคา 3,290,000 บาทนี้ คุณยังได้เครื่องเสียง Bowers & Wilkins Amplifier 1400W Class D 12 Channels  19 ลำโพง ซึ่งนับเป็นอุปกรณ์เด็ดของเขาอีกด้วย

Previous Post

N2908078_ญค ณต องทดแทน อย าล มคนท เคยช วยเรา_part2

Next Post

N2908071_ชายห ามน องสาวไม ให คบก บคนไม อนาคต_part2

Next Post
N2908071_ชายห ามน องสาวไม ให คบก บคนไม อนาคต_part2

N2908071_ชายห ามน องสาวไม ให คบก บคนไม อนาคต_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2612007 อแบ งสมบ 100ล าน แต เหม อนพ อจะลำเอ ยงให กชายคนเด ยว part2
  • N2612008 ดการห ามพน งานงานท อง part2
  • N2612005 ชายหลายใจ นต องเจอผ หญ งแบบน งสอน part2
  • N2612004 จะร บม อย งไง เม อพ อแม ไม ยอมร บร กร วมเพศของล part2
  • N2612010 เม ยใจด ดเม ยน อยให ว3คน วทำใจลำบาก part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.