Mercedes Benz C-Coupe รหัสร้อน C205 เวอร์ชั่น 2017-2018 รุ่น C250 AMG Dynamic ราคา 3,590,000 บาท กลายเป็นของเล่นคนรวย นี่คือภาคต่อของงานสร้างรถสปอร์ต 2 ประตูทรงป้อมอ้วนจากแบรนด์ตราดาวที่พยายามทำตัวให้ดูทันสมัย ส่งผลให้ C-Coupe รุ่นใหม่มีทรงที่แปลกประหลาดล้ำยุคล้ำอนาคตไปไกลจนตามแทบไม่ทัน หลังคาทรงโค้งกับบั้นท้ายแบบครึ่งวงกลมพร้อมไฟท้าย LED ทรงยาวรี ทำให้มันแตกต่างจาก C-Coupe C204 รุ่นพี่ที่ดุดันกว่าอยู่พอสมควร
…
การนำเสนอ C-Class ในแบบที่โดนใจนักขับสำหรับขาแนวที่ชื่นชอบรถ 2 ประตูขนาดกะทัดรัด เรือนร่างโค้งมนผสมกับเทคโนโลยีใหม่ของระบบขับเคลื่อนกับราคาค่าตัวที่ไม่แพงมาก (จนเกินไป) คืออาวุธเด็ดของ Mercedes Benz C250 Coupe AMG Dynamic ที่พร้อมจะจัดหนักกับรถสปอร์ตตราใบพัดของ BMW ด้วยประสิทธิภาพ สมรรถนะและราคาที่สูสีกัน ซึ่งต่างมีดีมีด้อยกันไปคนละอย่างสองอย่าง ขึ้นอยู่กับความชอบของนักขับกระเป๋าหนักเป็นหลักที่จะเลือกคบกับดาว หรือหันไปเล่นใบพัดสีฟ้าขาวที่ต่างก็เป็นรถเยอรมันชั้นดีด้วยกันทั้งคู่
…
เมื่อเปรียบเทียบกับ C204 ซึ่งเป็น C-Coupe รุ่นที่แล้ว เจ้า C250 Coupe AMG Dynamic โฉมปัจจุบันมีตัวเลขสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศต่ำสุดในกลุ่มรถคูเป้ ค่า Cd ที่ 0.26 ดีกว่าเดิมนิดๆ ระยะฐานล้อยาวขึ้น 80 มิลลิเมตร สัดส่วนความยาวของตัวรถ 4,696 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้น 95 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างอยู่ที่ 1,810 มิลลิเมตร กว้างขึ้นอีก 40 มิลลิเมตร รถสปอร์ตหลังคาโค้งรุ่นนี้มีสัดส่วนความสูง 1,405 มิลลิเมตร เป็นตัวเลขที่ดูมากไปนิดแต่ได้พื้นที่เหนือศีรษะเพิ่ม ทำให้คนขับและผู้โดยสารตอนหน้าไม่รู้สึกอึดอัด น้ำหนักตัวรถทั้งคันที่ 1,678 กิโลกรัม ตัวหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
…
เวอร์ชั่น C-Coupe C205 ใช้แชสซีแบบผสม โครงสร้างหลักมีทั้งเหล็กและอะลูมินั่มอัลลอย ส่วนที่รับแรงจะเป็นเหล็กกล้าทั้งหมดส่วนที่ต้องการลดน้ำหนักจะใช้อะลูมินั่มอัลลอย โครงสร้างของบานประตูแบบไม่มีกรอบกระจกมีการเสริมคานกันกระแทกไว้ภายใน ส่วนประกอบที่เป็นอะลูมิเนียม เช่น ฝากระโปรงหน้า-หลัง แก้มข้าง สำหรับบานประตูแบบไร้กรอบกระจกทั้งสองบานเป็นเหล็กเพื่อความปลอดภัย กระจังหน้า Diamond Grille ไฟหน้า LED Mercedes Benz Intelligent Light System ไฟหรี่ LED Daytime Running Lights สปอยเลอร์ AMG มีช่องรับอากาศด้านข้างที่มุมทั้งสองด้าน ฝากระโปงอัลลอยออกแบบให้สอดรับกับกระจังได้ดี และทำให้ C-Coupe C205 แตกต่างจาก C-Class W205 เล็กน้อย
…
หลังคาหนาและมีเสาหน้ากับเสาท้ายค่อนข้างหนา แนวหลังคาค่อยๆ ลาดเอียงลงไปยังส่วนท้ายที่โค้งมน กลางหลังคามี Panoramic Sunroof ไว้เอาใจคนโรแมนติก ไฟท้ายยาวดูดีกว่าเดิม รวมถึงล้ออัลลอย AMG ขอบ 19 นิ้วลายใบพัดที่ดูดีแต่ล้างยากอยู่เหมือนกัน เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตเครื่องวางหน้าตามยาวขับเคลื่อนล้อหลังจึงจำเป็นที่จะต้องยัดยางหลังให้ใหญ่กว่ายางหน้าเพื่อการเทแรงบิดลงพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยางสปอร์ตรันแฟลตราคาแพงจากเยอรมนี ยี่ห้อ Continental รุ่น Contisportcontact ล้อหน้าไซส์ 225/40R19 สำหรับล้อหลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนเล่นยางไซส์โตแก้มเตี้ยขนาด 245/35R19
ภายในมีทั้งความทันสมัยและความหรูหรามาพร้อมอุปกรณ์ไฮเทค วัสดุพวกหนังแท้ อัลลอย คาร์บอนเคฟล่าห์ พลาสติกเกรดสูง ประดับประตาอยู่ทั่วไปหมดโดยเฉพาะคอนโซลกลางที่หุ้มด้วยคาร์บอนเงาแวบ พวงมาลัยปรับไฟฟ้าแบบสามก้านทรงฐานตัด จัดสวิตช์ควบคุมกับแป้นเปลี่ยนเกียร์มาให้เหมือนเดิม พวงมาลัยปรับได้สี่ทิศทาง เบาะแบบสปอร์ตหุ้มหนังสีแดงแปร๊ดแสบตา เบาะหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมความจำสามระดับ
มาตรวัดแบบสปอร์ตเหมือนกับ C-Class W205 มีจอ mid multi information display คอยแจ้งรายละเอียดต่างๆ มาตรวัดทรงกระบอกเรืองแสงอ่านค่าได้ง่าย และออกแบบได้อย่างสวยงามน่ามอง
สิ่งที่ทำให้ภายในของ C250 Coupe AMG Dynamic ดูเป็นรถผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วคือความหรูผสมแนวสปอร์ต จุดที่น่ามองมากที่สุดของภายในก็คือแผงคอนโซลกลางหุ้มคาร์บอนเคฟล่าห์อย่างงาม ช่องแอร์ทรงกลมมีรายละเอียดที่ซับซ้อน นักออกแบบและตกแต่งภายในของ Mercedes Benz ยกระดับแผงคอนโซลกลางด้วยช่องแอร์อัลลอยสีเงินทรงกลมที่ให้สัมผัสของการหมุนดีเยี่ยม ส่วนแผงประตูก็ยังทำออกมาได้อย่างประณีตสวยงาม กรวยลำโพงและแผงควบคุมการปรับเบาะ ช่องใส่ของและมือจับที่เปิดประตูอย่างหรู
สวิตช์กับแป้นควบคุมจอภาพแบบกลมที่มีระบบสัมผัสมาให้ใช้งานแต่ไม่ค่อยได้ใช้ เนื่องจากเจ้าของมักชอบหมุนปุ่มกลมๆ มากกว่าการรูดนิ้วไปมา แผงควบคุมอุณหภูมิหน้าตาหรูๆ นาฬิกาทรงคลาสสิกที่กึ่งกลางแผงคอนโซลเอาอกเอาใจวัยบริหารที่ยึดติดความหรู ซุ้มเกียร์ในเจ้า C-Coupe รุ่น 250 ถูกย้ายไปอยู่ตรงก้านติดกับคอพวงมาลัยด้านขวา ทำให้เกิดความสับสนอยู่พอสมควรสำหรับคนที่ไม่เคยชิน หรือเพิ่งจะขับ Mercedes รุ่นใหม่ อุโมงค์เกียร์กั้นผู้โดยสารและคนขับออกเป็นสองส่วนจากกัน เบาะหลังคับแคบจากแนวหลังคาที่เทลงส่วนท้าย คนตัวสูงต้องทำใจเรื่องอึดอัดหากคิดจะนั่งเบาะหลังของ C-Coupe แถมการเข้าออกก็ยังต้องพับเบาะหน้า ดีขึ้นมาหน่อยที่เป็นเบาะพับไฟฟ้า แค่พับเบาะจะเลื่อนเดินหน้าเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับคนนั่งหลังได้ออกจากรถสะดวกขึ้น
แผงประตูเต็มไปด้วยงานที่มีความประณีตบรรจง งานอัลลอยผสมปนเปไปกับงานหนังและพลาสติก กรวยลำโพง Burmester ที่มีต้นทุนค่าผลิตสูง เฉพาะงานเจาะกรวยลำโพงอัลลอยสีเงินยวงที่ถูกเจาะจนเป็นรูพรุน และให้รูทั้งหมดมีความสมมาตรเท่ากันหมดก็ทำยากสุดๆ กรวยลำโพงเสียงกลางและแหลมวางอยู่บนแผ่นอัลลอยสีเงิน มือจับที่เปิดประตูด้านในของแผงประตูก็ยังเริดหรูสุดๆ แนวคิดคนขับเป็นจุดศูนย์กลางของการใช้งานอุปกรณ์ภายในทำให้การเอื้อมมือไปจับหรือกดสวิตช์ต่างๆ ภายในรถมีความน่าใช้งานจากการจัดวางอุปกรณ์ที่ดีเยี่ยม
จอภาพขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 800×480 พิกเซล พร้อมระบบควบคุมผ่านแป้น Controller ควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียงและเป็นมอนิเตอร์ของกล้องมองรอบทิศทาง กล้องถอยพร้อมเซนเซอร์สัญญาณเสียงแจ้งเตือน ระบบนำทางด้วยดาวเทียม การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกทั้งมือถือและอุปกรณ์เล่นเพลง จอแสดงผลกลางยังแจ้งสถานะต่างๆ ของตัวรถและการปรับตั้งทั้งโหมดของการขับเคลื่อนและการปรับอุณหภูมิ
Mercedes Benz C250 Coupe AMG Dynamic วางเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบแถวเรียงแบบ 4 กระบอกสูบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ระบบอัดอากาศเทอร์โบคู่ พร้อมชุดลดอุณหภูมิไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ มีปริมาตรความจุ 1,991 ซีซี กำลังสูงสุด 155 กิโลวัตต์ 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับว่าแรงเอาเรื่อง
ระบบส่งกำลังจากรุ่นเปิดตัวครั้งแรกในไทยที่เคยใช้เกียร์ 7-G Tronic Plus เปลี่ยนมาเป็นเกียร์เทพ 9 -G Tronic พร้อมระบบเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle shift โหมดการขับเคลื่อนยัดมาเพียบถึง 5 โหมด 5 ระดับ ไล่จาก ECO /Comfort / Sport / Sport +/ individual โหมด individual ทำมาเพื่อเอาใจนักขับที่ชอบเติมรายละเอียดการตอบสนองของพวงมาลัยและเครื่องยนต์ด้วยตัวเอง
ระบบรองรับยกมาทั้งยวงจาก New C-Class W205 ด้านหน้าเป็นแบบโฟร์ลิ้งค์พร้อมปีกนกคู่อัลลอย ชุดคอม้าอัลลอยขนาดใหญ่ลดน้ำหนักใต้สปริงลงไปได้อีก 2 กิโลกรัม ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบมัลติลิ้งค์ จัดวางในลักษณะแขนยึด 5 จุด พวงมาลัยไฟฟ้า Sport Direct Steer ปรับตั้งความรู้สึกไปตามโหมดขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติหรือจะแยกปรับพวงมาลัยให้หนักเบาได้ตามใจชอบ ลืมบอกไปว่าช่วงล่างของ C250 Coupe AMG Dynamic มีความสูงลดลง 10 มิลลิเมตร โดยมีการทำงานของโช้คอัพแบบ Agility Control กลไกของวาล์วภายในกระบอกโช้คสามารถปรับระดับการตอบสนองไม่ว่าจะ Soft หรือ Hard ตามการเต้นของช่วงล่างเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ
ไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์หรูตราดาวจะกลายเป็นบริษัทที่สร้างรถได้ดีเท่ากับ BMW มันอาจไม่ใช่รถที่หรูสุดหรือสวยที่สุดแต่ก็เป็นรถที่ทันสมัย และเป็นรถหรูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก C-Coupe C205 รุ่น 250 AMG Dynamic มีเบาะที่โอบอุ้มร่างกายเมื่อคุณปรับเบาะให้กดลงต่ำสุดก็จะได้ท่านั่งแบบสปอร์ตที่กระชับรัดกุม พื้นที่ส่วนหน้าเหมือนกับ C-Class W205 แต่ที่ไม่เหมือนก็คืองานคาร์บอนราคาแพงบนคอนโซลกลาง ทัศนวิสัยมุมมองด้านหน้าดี แต่เมื่อหันไปมองด้านข้างและกระจกหลังคุณก็จะถูกบดบังด้วยความโค้งของหลังคาและเสาท้ายในสไตล์ Coupe
C250 เป็นรถสปอร์ตที่วางเครื่องเบนซินเทอร์โบ โดยลักษณะของการวางเครื่องยนต์เป็นแบบวางตามยาวด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง 211 แรงม้า ร่นแท่นเครื่องชิดกับผนังด้านหน้าของห้องโดยสารเพื่อปรับตัวเลขการกระจายน้ำหนักให้มีค่าที่สมมาตร พร้อมแรงฉุดลาก 350 นิวตันเมตร การขับในเมืองมีความคล่องตัวสูงจากขนาดที่กะทัดรัดที่ออกมาในแนวแบนและเตี้ย แรงบิดให้มาเต็มเหนี่ยวตั้งแต่รอบต่ำแค่ 1,250 รอบต่อนาที ไหลยาวไปจนถึง 4,500 รอบต่อนาที หากมีถนนโล่งพอมันจะทำตัวเป็นรถเล็กจอมคล่องที่ไปได้เร็วและให้ความตื่นตาตื่นใจกับขาแนวที่ชอบรถคูเป้ชนิดจุใจ ความหรูของอุปกรณ์เกิดจากการจัดวางและการเลือกวัสดุที่ดีมีราคาเข้ามาตกแต่ง สำหรับพื้นที่เบาะหลังนั้นเหมาะกับเด็กตัวเล็กมากกว่าผู้ใหญ่ตัวโต หลังคาที่ลาดเทยิ่งทำให้พื้นที่เหนือศีรษะเหลือน้อย พื้นที่วางเท้าของเบาะหลังก็มีไม่มาก แต่รถประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะขับแค่คนเดียวหรือมีคนนั่งหน้าไปด้วยเท่านั้น การเข้าออกจากเบาะหลังที่คับแคบของ C-Coupe ทำให้เบาะหลังของมันไม่สะดวกสบายเท่ากับรุ่น 4 ประตูที่มีพื้นที่มากกว่า
โหมด ECO หรือโหมดประหยัดมีคันเร่งที่ยืดหยุ่นพร้อมเกียร์ 9 สปีดที่จะไล่ขึ้นเกียร์สูงเพื่อลดรอบเครื่องยนต์ เหมาะกับการขับแบบไม่รีบหรือการขับใช้งานในเมือง Auto Start/Stop จะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดอยู่นิ่งๆ รอการเคลื่อนตัว หากรำคาญอาการติดๆ ดับๆ ของระบบนี้ก็กดปุ่มยกเลิกการทำงานได้เลย เกียร์ 8-9 กลายเป็นเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ที่ช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อวิ่งบนไฮเวย์ด้วยความเร็วคงที่ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง วิ่งที่สปีดความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำรอบเครื่องยนต์ได้ 1,950 รอบต่อนาที
