เป็นอีกปีหนึ่งที่ Mercedes-Benz รักษาตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์หรู ที่มียอดขายสะสมประจำปีทั่วโลกสูงที่สุด ถือเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ตามมาด้วยคู่แค้นแสนรักอย่าง BMW ที่มียอดต่างกันราวสองแสนคัน ปิดท้ายด้วย Audi ที่มีตัวเลขทิ้งห่างจากที่สองมากกว่าห้าแสนคัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

ยอดขายสะสมทั่วโลกของรถยนต์หรู แบ่งตามแบรนด์ ประจำปี 2019
- อันดับที่ 1 : Mercedes-Benz มียอดขาย 2,330,000 คัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.3 %)
- อันดับที่ 2 : BMW มียอดขาย 2,170,000 คัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 %)
- อันดับที่ 3 : Audi มียอดขาย 1,840,000 คัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.8 %)
- อันดับที่ 4 : Volvo มียอดขาย 705,000 คัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.8 %)
- อันดับที่ 5 : Jaguar Land Rover มียอดขาย 557,000 คัน (ลดลงจากปีก่อน 5.9 %)
แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ของปีที่ผ่านมาจะอยู่ในขาลง แต่ผู้ผลิตรถยนต์หรูกลับมียอดขายสูงขึ้น เนื่องจากตลาดระดับบนฟื้นตัวได้ไวกว่า ส่วนความสำเร็จของ Mercedes-Benz เกิดจากมียอดในเยอรมนี, จีน และ สหรัฐฯ มาช่วยดันตัวเลขรวม ทั้งยังมีสถิติที่น่าสนใจว่า ทุกหนึ่งในสามของรถยนต์จากค่ายดาวสามแฉกที่ขายได้เป็น SUV และ Maybach S-Class มียอดขายในจีนเดือนละมากกว่า 700 คัน

ส่วน BMW มียอดขายสูงขึ้นจากปีก่อน เกือบทุกแบรนด์ในเครือ ทั้ง BMW M โตขึ้น 32.2% , BMW i โตขึ้น 2.2% และ Rolls-Royce โตขึ้น 25.4% ยกเว้น MINI ที่มียอดขายลดลง 4.1% โดยบริษัทระบุว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จ คือการมีรุ่นรถยนต์ให้เลือกหลากหลาย และในปี 2020 จะมุ่งบุกตลาดจีน, ยุโรป และ สหรัฐฯ เพื่อชดเชยผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจในปี 2019
ไปต่อที่ Audi ที่มีแผนการเปิดตัวรถยนต์อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อรักษายอดขายให้อยู่ในระดับเดิม ส่วน Volvo แม้จะมียอดขายต่ำกว่าหลักล้านคัน แต่ถือเป็นความสำเร็จในรอบ 93 ปีของประวัติศาสตร์บริษัท ที่มียอดขายสะสมเกิน 700,000 คัน ปิดท้ายกับ Jaguar Land Rover ที่แบ่งยอดขายปี 2019 ออกเป็นของ Land Rover จำนวน 396,105 คัน ส่วนที่เหลือเป็นของ Jaguar

Audi R8 Coupe 2017 ใหม่ แรงดีไม่มีตกคว้าตำแหน่งรถสมรรถนะยอดเยี่ยม World Performance Car 2016 กลับมาครองได้อีกเป็นครั้งที่ 3
Audi R8 ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเพราะตั้งแต่โฉมแรกที่เปิดตัวในปี 2008 ก็สามารถกวาดรางวัลจาก World Car Awards ได้ทันทีในปีนั้นถึง 2 รางวัลรวดทั้ง World Car Design of the Year และ World Performance Car สำหรับ Audi R8 เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.2 ลิตร FSI Quattro ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร FSI Quattro ตามออกมาในปี 2010 ซึ่งก็คว้ารางวัล World Performance Car 2010 มาครองอีกจนได้

ล่าสุด Audi R8 2017 ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 เพิ่งเปิดตัวในงาน เจนีวา มอเตอร์ โชว์ ไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในรถยนต์ทั้งหมด 9 รุ่น เพื่อชิงตำแหน่งรถสมรรถนะยอดเยี่ยม ประจำปี 2016 หรือ World Performance Car 2016 อีกครั้งจนผ่านเข้ารอบมาถึง 3 คัน สุดท้ายพร้อมกับ Mercedes-AMG C63 Coupe เพื่อนร่วมชาติและ Honda Civic Type R ฮอตแฮตช์สุดแสบที่ต้องปรบมือให้กับสมรรรถนะที่ดุเด็ดเผ็ดร้อนเกินตัว

แต่ผลการโหวตโดยคณะกรรมการที่เป็นสื่อยานยนต์จากทั่วโลกของ World Car Awards ต่างก็เทคะแนนให้กับ Audi R8 Coupe ใหม่ มากที่สุด เพราะดีไซน์ที่โดดเด่นและการขับขี่ที่คล่องแคล่วใกล้เคียงกับรถแข่งมาก ซึ่ง Audi R8 ถือเป็นไพ่ใบสำคัญที่แข็งแกร่งและเป็นรถสปอร์ตรุ่นเรือธงของ Audi หลังจากที่โฉมแรกได้สร้างชื่อเสียงไว้อย่างงดงามสำหรับการบุกเข้าไปยืนในพื้นที่ของซูเปอร์คาร์ และ Audi R8 รุ่นที่ 2 นี้เปรียบเสมือนการสานต่อความสำเร็จรวมถึงเสริมกลยุทธ์ในกลุ่มรถสปอร์ตทั้งหมดของ Audi อีกด้วย

ทั้งนี้สำหรับความเห็นจากเหล่าคณะกรรมการตัดสินของ World Car Awards ที่มีต่อ Audi R8 Coupe ใหม่นี้ระบุว่า “การเข้าร่วมการแข่งขันเลอ ม็องส์ ของ Audi น่าจะเป็นทั้งแรงปรารถนาและแรงบันดาลใจในการสร้าง R8 ให้เกิดขึ้นในโลกของซูเปอร์คาร์ และตอนนี้ Audi R8 Coupe รุ่นล่าสุดก็สามารถคว้ารางวัล World Performance Car 2016 ได้สำเร็จท่ามกลางรถสมรรถนะสูงอื่น ๆ มากมายทั้งจากฝั่งอเมริกา เอเชีย รวมถึงยุโรปด้วยกันเอง นอกเหนือจากนี้แล้ว Audi R8 ยังเป็นรถที่มีความเป็นรถแข่งและเทคโนโลยีทันสมัยอยู่ในตัวซึ่งทำให้มีการบังคับควบคุมที่ง่ายจนน่าแปลกใจไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วสูงหรือวิ่งเล่นแบบช้า ๆ ก็ตาม”
แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ยากสำหรับ Audi R8 ที่จะครองตำแหน่งรถสมรรถนะยอดเยี่ยมทุกครั้งที่เปิดตัวจาก World Car Awards เลยจริง ๆ









