• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0211059 กจร งหลอกหลอก part2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N0211059 กจร งหลอกหลอก part2

ในโลกแห่งยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว มีรถยนต์ไม่กี่รุ่นที่สามารถยืนหยัดท้าทายกาลเวลาและยังคงสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไม่เสื่อมคลาย “Nissan GT-R” โค้ดเนม R35 คือหนึ่งในนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นปี 2018 ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญที่ Nissan Motor Thailand ได้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศ นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้แก่แฟนๆ รถสปอร์ต และผู้หลงใหลในความเร็วได้สัมผัสกับ รถยนต์สมรรถนะสูง ระดับโลกที่เคยเป็นเพียงความฝัน การก้าวเข้าสู่ปี 2025 นี้ ทำให้เราได้หวนมองกลับไปที่ Nissan GT-R 2018 ในฐานะ รถในตำนาน ที่ยังคงทรงพลังและเป็นที่ต้องการ แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ถือกำเนิดขึ้นมามากมาย แต่ “Godzilla” คันนี้ก็ยังคงรักษาตำแหน่งราชันย์แห่งความเร็วในแบบฉบับของตัวเองไว้อย่างมั่นคง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของ Nissan GT-R มาตั้งแต่รุ่นแรกๆ การที่รุ่น R35 โดยเฉพาะอย่างยิ่งปี 2018 ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการนั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ ราคา Nissan GT-R มีความเป็นไปได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ รถซูเปอร์คาร์ ที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงความพิเศษของ Nissan GT-R 2018 ว่าทำไมมันถึงยังคงเป็นที่น่าจับตาในโลกแห่งยานยนต์ปี 2025 และยังคงมอบประสบการณ์ การขับขี่สปอร์ต ที่เร้าใจไม่แพ้ใคร

รากฐานอันแข็งแกร่ง: ตำนานแห่ง Godzilla

ก่อนจะลงลึกถึงรุ่นปี 2018 เราต้องทำความเข้าใจถึงรากฐานอันแข็งแกร่งของ Nissan GT-R เสียก่อน ชื่อ “Godzilla” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มันคือฉายาที่สะท้อนถึงพลังทำลายล้างคู่แข่งในสนามแข่ง และสมรรถนะที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกันอย่างเทียบไม่ติด การที่ R35 ทิ้งห่างจากตระกูล Skyline มายืนหยัดในชื่อ GT-R เพียงอย่างเดียวนั้น แสดงถึงความมั่นใจใน DNA แห่งความเร็วที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวนาน และรุ่นปี 2018 นี้ ก็เป็นการพัฒนาที่ต่อเนื่องจาก R35 เจเนอเรชั่นแรก โดยเน้นการปรับปรุงในรายละเอียดที่สำคัญ เพื่อยกระดับทั้งในด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และความประณีต

งานออกแบบที่ท้าทายกาลเวลา: รูปลักษณ์ภายนอกอันดุดันและเปี่ยมประสิทธิภาพ

แม้จะผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่เปิดตัว แต่รูปลักษณ์ของ Nissan GT-R 2018 ก็ยังคงดูดุดัน ล้ำสมัย และไม่ตกยุคในสายตาของปี 2025 ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยไม่ได้มีเพียงความสวยงาม แต่ยังต้องตอบสนองหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง เพื่อให้รถสามารถแหวกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไฟท้ายทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาจาก Skyline ยังคงเป็นภาพจำที่สะกดทุกสายตาที่มองตาม ยิ่งไปกว่านั้น ทุกเส้นสายบนตัวถัง ทั้งสปอยเลอร์หน้าขนาดใหญ่, ช่องดักอากาศ, และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงกด (downforce) ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมในยามใช้ความเร็วสูง การออกแบบที่คำนึงถึง “ความสมดุลของการถ่ายน้ำหนัก” ในทุกท่วงท่าของการขับเคลื่อน เป็นปรัชญาสำคัญที่ทำให้ GT-R โดดเด่นเหนือคู่แข่ง แม้ในปัจจุบัน เทคโนโลยีรถยนต์ ด้านอากาศพลศาสตร์จะก้าวหน้าไปไกล แต่ GT-R 2018 ก็ยังคงเป็นต้นแบบที่น่าศึกษา

ห้องโดยสารที่ผสมผสานความสปอร์ตและความหรูหรา: ประสบการณ์สำหรับนักขับและผู้โดยสาร

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Nissan GT-R 2018 เราจะพบกับการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา แม้จะออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูงและสมรรถนะที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เบาะนั่งหนังคุณภาพสูงที่โอบกระชับสรีระ ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นคงแม้ในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แผงคอนโซลกลางได้รับการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เน้นการใช้งานง่ายสำหรับคนขับ จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 5.7 นิ้ว พร้อมมาตรวัดขนาดใหญ่ ช่วยให้ผู้ขับสามารถอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ ระบบนำทาง Navigation Plus พร้อมหน้าจอ LCD แบบสีขนาด 8.8 นิ้ว ก็เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางอย่างครบครัน แม้ในยุคที่จอสัมผัสขนาดใหญ่กลายเป็นมาตรฐาน แต่ระบบของ GT-R 2018 ก็ยังคงให้ข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน และตอบสนองการใช้งานได้ดีเยี่ยม

หัวใจแห่งสมรรถนะ: เครื่องยนต์ VR38DETT ที่สร้างตำนาน

หัวใจหลักที่ทำให้ Nissan GT-R 2018 ยังคงเป็นที่พูดถึงในปี 2025 คือ เครื่องยนต์ VR38DETT ขนาด 3.8 ลิตร แบบ V6 เทอร์โบคู่ เครื่องยนต์ที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากฝีมือ “ทาคูมิ” (Takumi) ช่างผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ขุมพลังนี้มอบกำลังสูงสุดถึง 419 กิโลวัตต์ (570 แรงม้า) สำหรับรุ่นมาตรฐาน และ 441 กิโลวัตต์ (600 แรงม้า) สำหรับรุ่น NISMO ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังคงน่าประทับใจอย่างยิ่งแม้ในปัจจุบัน

เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ภายใน เครื่องยนต์ VR38DETT คือกุญแจสำคัญสู่สมรรถนะอันน่าทึ่ง:

ระบบอัดอากาศ IHI Turbocharger: ออกแบบมาเพื่อส่งอากาศอัดเข้าสู่แต่ละสูบได้อย่างไหลลื่นที่สุด พร้อมด้วย Intercooler ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพในการหล่อเย็นสูง ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มกำลัง

ระบบปรับ Turbocharger ด้วยไฟฟ้า: ช่วยลดอาการ Turbo Lag หรือความหน่วงของเทอร์โบ ทำให้การตอบสนองต่อแรงบิดเป็นไปอย่างฉับไวและทันใจในทุกช่วงรอบเครื่อง

การเคลือบกระบอกสูบด้วย Plasma-Spray: เทคโนโลยีขั้นสูงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อเย็น ลดแรงเสียดทาน และลดน้ำหนัก เมื่อเทียบกับกระบอกสูบแบบธรรมดา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ GT-R 2018 มีแรงม้าสูง และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ GT-R 2018 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 2.7 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่รถ ซูเปอร์คาร์ หลายคันในตลาดปี 2025 ยังต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้เทียบเท่า ความเร็วสูงสุดที่วัดได้จริงกว่า 313.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ตอกย้ำถึงความสามารถด้านวิศวกรรมของ Nissan ที่ได้สร้างสรรค์เครื่องยนต์ที่ตอบรับความเป็น Supercar แห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างแท้จริง

ระบบส่งกำลังและ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ

สมรรถนะอันมหาศาลของเครื่องยนต์จะไร้ความหมายหากปราศจากระบบส่งกำลังที่ยอดเยี่ยม Nissan GT-R 2018 มาพร้อมกับ ระบบเกียร์ 6-Speed Dual Clutch แบบอัตโนมัติ ที่ทำงานร่วมกับ Paddle-shift ซึ่งสามารถทำการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.15 วินาทีใน R-MODE ความรวดเร็วนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รถสามารถรักษาอัตราเร่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีการสูญเสียกำลัง

และที่ขาดไม่ได้คือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-wheel-drive (ATTESA E-TS) อันเลื่องชื่อของ Nissan ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนให้สูงสุดในทุกสภาพการขับขี่ แต่ยังฉลาดพอที่จะกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือการออกตัวบนพื้นผิวที่มีการยึดเกาะต่ำ ระบบนี้คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ GT-R R35 มีความมั่นคงและควบคุมได้ง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับพละกำลังที่มหาศาล

ช่วงล่างและระบบควบคุมที่เหนือชั้น: สร้างความสนุกและมั่นใจ

เพื่อรองรับพลังมหาศาลและการใช้งานในความเร็วสูง Nissan GT-R 2018 ได้รับการติดตั้ง ช่วงล่าง Bilstein DampTronic® ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองได้ตามสภาพถนนและโหมดการขับขี่ ช่วยควบคุมแรงสั่นสะเทือนให้เหมาะสม มอบทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่ปกติ และความแข็งแกร่งมั่นคงเมื่อต้องใช้ความเร็วสูง

ระบบเบรกก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ด้วยจานเบรกแบบ MONOBLOCK ประสิทธิภาพสูงจาก Brembo® ที่แข็งแกร่งทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามาพร้อมปั๊มเบรก 6 สูบ และด้านหลัง 4 สูบ ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและมีโรเตอร์ด้านในที่ช่วยระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพการหยุดรถได้ในทุกสถานการณ์

ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 20 นิ้ว ผลิตโดย RAYS ซึ่งเป็นผู้ผลิตล้อซิ่งคุณภาพระดับโลก จับคู่กับ ยาง Dunlop SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT แบบ Run-Flat สมรรถนะสูง ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุดของ GT-R ออกมา ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทาง และสร้างความรู้สึกสนุกในการควบคุม

โหมดการขับขี่: ปรับเปลี่ยนบุคลิกได้ดั่งใจ

Nissan GT-R 2018 ไม่ได้เป็นเพียงรถที่เร็ว แต่ยังเป็นรถที่สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกได้ตามใจคนขับ ด้วย 3 โหมดการขับขี่หลัก ที่จะปรับระบบเกียร์, ช่วงล่าง, และระบบควบคุมเสถียรภาพ Vehicle Dynamic Control (VDC) ให้เหมาะสม:

R-MODE: โหมดสำหรับรีดแรงม้าและสมรรถนะสูงสุด ระบบเกียร์จะเข้าสู่ Quick Shift ทำการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว เพื่อไต่รอบเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่อง ช่วงล่างและ VDC จะถูกปรับให้แข็งแกร่งและตอบสนองได้ทันท่วงที เหมาะสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งหรือบนถนนที่ต้องการสมรรถนะขั้นสุด

NORMAL MODE: โหมดสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ระบบต่างๆ จะถูกปรับให้ทำงานอย่างลื่นไหลและนุ่มนวลที่สุด เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือบนถนนทั่วไป

SAVE MODE (SPECIAL MODE): โหมดนี้เหมาะสำหรับการเดินทางไกล หรือบนสภาพถนนที่ลื่น โดยจะช่วยเพิ่มแรงบิดให้กับเครื่องยนต์ ทำให้รถสามารถรักษาเสถียรภาพได้ดี และยังคงความนุ่มนวลของโช้คอัพและความสบายในการขับขี่

ข้อมูลการขับขี่แบบเรียลไทม์: จอแสดงผลอัจฉริยะจาก Polyphony Digital

ความเร้าใจไม่ได้จบลงแค่การขับขี่ แต่ยังรวมถึงการรับรู้ข้อมูลที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ จอแสดงผลแบบ Multiple customizable displays ใน Nissan GT-R 2018 ที่ออกแบบโดย Polyphony Digital (ผู้สร้างเกม Gran Turismo) เป็นนวัตกรรมที่ส่งข้อมูลสมรรถนะแบบ Real-time ได้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับโลกแห่งความเร็วได้อย่างเต็มที่ ข้อมูลที่แสดงผลครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น:

มอนิเตอร์เครื่องยนต์: แสดงค่า Turbo Boost, อุณหภูมิน้ำมัน, และแรงดัน

การมอนิเตอร์แรงที่เครื่องยนต์ส่งออก: ความเร็ว, Turbo Boost, และองศาลิ้นปีกผีเสื้อ

การตรวจเช็คค่าความประหยัดน้ำมัน: พร้อมแสดงระดับความประหยัด

มอนิเตอร์การทำงานของเครื่องยนต์: อุณหภูมิน้ำ, อุณหภูมิน้ำมัน, และอุณหภูมิน้ำมันเกียร์

มอนิเตอร์ความสมดุลของตัวรถ: องศาของตัวรถสำหรับการเข้าโค้งและการใช้เบรก

หน้าจอจับเวลา: สามารถกดเริ่มและหยุดได้บนพวงมาลัย สำหรับการทำสถิติใหม่ๆ

ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแค่ให้ข้อมูล แต่ยังสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถ ให้ได้รับรู้ถึงศักยภาพและขีดจำกัดของ GT-R ได้อย่างแท้จริง

Nissan GT-R 2018 ในตลาดรถยนต์มือสองปี 2025: ตำนานที่ยังคงมีชีวิต

ในฐานะ รถในตำนาน ที่เป็นที่ต้องการ Nissan GT-R 2018 ยังคงมีมูลค่าในตลาด รถยนต์มือสอง ปี 2025 ด้วยชื่อเสียงด้านสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและความทนทานของ เครื่องยนต์ VR38DETT ทำให้ GT-R R35 กลายเป็นรถที่น่าสะสมและเป็นที่ต้องการของนักเลงรถทั่วโลก

ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ราคา Nissan GT-R มือสองในปี 2025 จะขึ้นอยู่กับสภาพรถ, เลขไมล์, ประวัติการบำรุงรักษา, และการปรับแต่งต่างๆ รถที่ได้รับการดูแลอย่างดี มีประวัติการเข้าศูนย์บริการครบถ้วน และไม่ผ่านการดัดแปลงที่ส่งผลต่อโครงสร้างหลัก จะยังคงรักษามูลค่าได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่า ค่าซ่อมบำรุง อาจจะสูงกว่า รถญี่ปุ่น ทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับสมรรถนะระดับ ซูเปอร์คาร์ ที่ได้รับ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่า และด้วยการที่ Nissan ได้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำให้การหาอะไหล่และการเข้ารับบริการในศูนย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงเป็นไปได้ ทำให้การเป็นเจ้าของ GT-R 2018 ในปี 2025 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ รถสปอร์ต ที่ไม่เหมือนใคร

บทสรุป: ตำนานที่ไม่มีวันจางหาย

Nissan GT-R 2018 ไม่ใช่แค่ รถยนต์สมรรถนะสูง แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งวิศวกรรมยานยนต์ที่กล้าท้าทายทุกข้อจำกัด ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ชาญฉลาด และงานออกแบบที่ผสมผสานความดุดันเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ได้อย่างลงตัว ทำให้ “Godzilla” คันนี้ยังคงเป็น รถในตำนาน ที่น่าเกรงขาม

ในมุมมองของปี 2025 แม้จะมีรถยนต์ไฟฟ้าและ ซูเปอร์คาร์ รุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ Nissan GT-R 2018 ยังคงยืนหยัดด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ประสบการณ์ การขับขี่สปอร์ต ที่ดิบและเร้าใจ รวมถึงการเป็นเจ้าของตำนานที่จับต้องได้ ทำให้มันยังคงเป็นรถที่ครองใจนักขับและผู้ที่หลงใหลในความเร็วได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน Nissan GT-R ก็ยังคงเป็นหนึ่งใน เทคโนโลยีรถยนต์ ที่น่าภาคภูมิใจและเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่เสมอ

Previous Post

N0211068 ไม กด part2

Next Post

N0211058 เป าหมายช ตส การแย งช งส บปะรด (1) part2

Next Post
N0211058 เป าหมายช ตส การแย งช งส บปะรด (1) part2

N0211058 เป าหมายช ตส การแย งช งส บปะรด (1) part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.