• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0611006 เวทมนต ของเง น10บาท เปล ยนช ตเธอไปท งช #ด ให จบ #เร องน อค ดด มาก part2

admin79 by admin79
November 1, 2025
in Uncategorized
0
N0611006 เวทมนต ของเง น10บาท เปล ยนช ตเธอไปท งช #ด ให จบ #เร องน อค ดด มาก part2

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ จากยุคที่เครื่องยนต์สันดาปครองตลาดอย่างเบ็ดเสร็จ สู่ปัจจุบันที่เทคโนโลยีไฟฟ้าและระบบอัจฉริยะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างไม่เคยมีมาก่อน ปี 2025 ไม่ใช่เพียงแค่ปีปฏิทิน แต่เป็นหมุดหมายที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการอันก้าวกระโดดของรถยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว หรือสุดยอดยนตรกรรมสมรรถนะสูง

วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงสองตำนานที่เคยสร้างปรากฏการณ์เมื่อครั้งอดีตอย่าง Isuzu MU-X และ Nissan GT-R ซึ่งแม้โมเดลปี 2017 ที่เราเคยสัมผัสจะถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ที่ล้ำสมัยกว่า แต่รากฐานและปรัชญาการออกแบบของมันยังคงเป็นดีเอ็นเอสำคัญที่ส่งต่อไปยังรุ่นปัจจุบัน และกำหนดทิศทางของตลาด รถยนต์ไทย 2025 ได้อย่างน่าสนใจ มาดูกันว่าในยุคที่เทคโนโลยีและความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก รถยนต์ในกลุ่มนี้ได้ปรับตัวและพัฒนาไปในทิศทางใดบ้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

Isuzu MU-X: จากเพื่อนร่วมทางยอดประหยัด สู่รถยนต์อเนกประสงค์ยุคใหม่เพื่อครอบครัวแห่งอนาคต

เมื่อย้อนกลับไปในปี 2017 Isuzu MU-X Minorchange ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด รถยนต์ PPV 7 ที่นั่ง ที่โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน และความทนทาน เครื่องยนต์ดีเซล Blue Power ขนาด 1.9 และ 3.0 ลิตร ที่เน้นประสิทธิภาพและมลพิษต่ำ เป็นหัวใจหลักที่ทำให้มันครองใจคนไทย บทบาทของมันคือรถสำหรับครอบครัวที่พร้อมลุยไปทุกเส้นทาง ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ดีเยี่ยม

ก้าวเข้าสู่ปี 2025 ตลาด รถอเนกประสงค์ ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ไปมาก ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่ความประหยัดและความทนทานอีกต่อไป แต่ยังต้องการนวัตกรรม ความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และที่สำคัญที่สุดคือ เทคโนโลยีความปลอดภัย 2025 ที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น

วิวัฒนาการของขุมพลังและประสิทธิภาพการขับขี่:

ในยุค 2025 Isuzu MU-X ได้พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล Blue Power ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ไม่เพียงแค่เน้นความประหยัดและแรงบิดที่เพียงพอ แต่ยังผสานกับเทคโนโลยี Mild-Hybrid (MHEV) หรือแม้กระทั่ง Plug-in Hybrid (PHEV) ในบางรุ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงให้ถึงขีดสุด ลดการปล่อยมลพิษให้ต่ำลงอีก และยังคงรักษา DNA ของเครื่องยนต์ดีเซลที่แข็งแกร่งและทนทานไว้ได้อย่างลงตัว

ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 หรือ 8 สปีด (แล้วแต่รุ่น) พร้อมโหมด Rev Tronic หรือแม้กระทั่งระบบเกียร์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ทำให้การขับขี่ราบรื่นและตอบสนองได้ทันใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น หรือการเดินทางไกลข้ามจังหวัด ประสบการณ์ขับขี่ ที่นุ่มนวลแต่ยังคงความมั่นใจตามสไตล์ Isuzu คือสิ่งที่ผู้ขับขี่จะได้รับ

ช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี Adaptive Suspension หรือช่วงล่างอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถปรับความหนืดได้อัตโนมัติ ช่วยลดอาการโคลงเคลงของรถแชสซีส์ออนเฟรมได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ Isuzu MU-X ในปี 2025 มอบความสบายในการเดินทางที่เหนือกว่ารุ่นก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะวิ่งบนทางเรียบหรือทางขรุขระ ผู้โดยสารในทุกที่นั่งจะรู้สึกถึงความนุ่มนวลและมั่นคง

การออกแบบภายนอกที่สะท้อนยุคสมัยและฟังก์ชันการใช้งาน:

แม้ดีไซน์จะยังคงเอกลักษณ์ของรถยนต์ PPV ที่แข็งแกร่งและดุดัน แต่ MU-X ปี 2025 ได้รับการปรับโฉมให้มีความทันสมัยและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ไฟหน้า Bi-LED หรือแม้กระทั่ง Full-LED Matrix ที่มาพร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติและไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daylight) แบบ LED Guiding Light ที่ผสานอยู่ในโคมเดียวกัน กลายเป็นมาตรฐานใหม่ กระจังหน้าดีไซน์ Sport 3D ที่ใหญ่ขึ้นและมีมิติ รวมถึงไฟท้าย LED ดีไซน์ Sharp Horizon ที่ดูโฉบเฉี่ยว และล้ออัลลอยขนาด 18 หรือ 20 นิ้ว ลายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมรูปลักษณ์ให้ดูพรีเมียมและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดการออกแบบที่ไม่ได้เน้นแค่ความสวยงาม แต่ยังคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์และการใช้งานจริง

ห้องโดยสารที่ redefined คำว่า “พรีเมียม” สำหรับครอบครัว:

ในห้องโดยสารของ Isuzu MU-X ปี 2025 เราจะพบกับความหรูหราที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้เกรดพรีเมียม หนังกึ่งสังเคราะห์ Soft Touch ในบริเวณคอนโซลหน้า แผงข้างประตู และที่พักแขน รวมถึงการตกแต่งด้วยลายไม้ Fine Walnut หรือวัสดุ Piano Black ที่ดูทันสมัยและมีระดับ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและหรูหราไปพร้อมกัน

เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ Sport Cut ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ความสบายในการเดินทางระยะไกล พร้อมฟังก์ชันการปรับไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า ถือเป็นจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าได้เป็นอย่างดี พื้นที่ภายในที่กว้างขวางยังคงเป็นหัวใจสำคัญของ รถยนต์ 7 ที่นั่ง แห่งนี้ ซึ่งช่วยให้ทุกคนในครอบครัวเดินทางได้อย่างผ่อนคลาย

เทคโนโลยีและความบันเทิงที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์:

ระบบความบันเทิง ISUZU iConnect ในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าจอสัมผัสขนาด 8 หรือ 10 นิ้ว แต่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบนำทาง Built-in Navigator ที่อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (Wireless) รวมถึงฟังก์ชัน Air Mirroring ที่เชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้อย่างไร้รอยต่อ

ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C และ Type-A ที่กระจายอยู่ทั่วห้องโดยสาร รวมถึงช่องจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V ที่มีกำลังไฟสูงขึ้น รองรับการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายชนิด ระบบเสียง Surround Sound System 8-10 ลำโพง พร้อม Roof Speaker และ Subwoofer คุณภาพสูง มอบมิติเสียงที่คมชัดและสมจริง ส่วนจอภาพบนเพดานแบบ Built-in ขนาด 12.5 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ก็ช่วยสร้างความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone หรือ Tri-Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้ง 3 ตอน และสวิตช์แยกเพื่อควบคุมระดับพัดลมแอร์ตอนหลัง ทำให้ผู้โดยสารแต่ละโซนสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ เสริมด้วยระบบกรองอากาศ PM2.5 และฟังก์ชัน Clean Air ที่ใส่ใจสุขภาพของทุกคนในรถ

ระบบความปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง:

นี่คือจุดที่ Isuzu MU-X ปี 2025 ได้รับการพัฒนาไปมากที่สุด จากระบบความปลอดภัยพื้นฐานในปี 2017 สู่ชุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver-Assistance Systems) ที่ครบวงจรและชาญฉลาดเทียบเท่ารถยุโรป อาทิ:

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC) ที่สามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าได้อัตโนมัติ และทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วต่ำจนถึงหยุดนิ่ง (Stop & Go)

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Braking – FCW & AEB)

ระบบเตือนการออกนอกเลนและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Departure Warning & Lane Keeping Assist – LDW & LKA)

ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring – BSM) และระบบเตือนขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)

กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (360-degree Surround View Camera) พร้อม Lane Guide และเซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง

ถุงลมนิรภัยสูงสุด 7 ตำแหน่ง (จากเดิมคู่หน้า) ครอบคลุมผู้โดยสารทุกโซน

โครงสร้างห้องโดยสารเสริมเหล็กกล้า High Tensile Strength Steel ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และคานเหล็กกันกระแทกด้านข้าง Side Door Beam ในทุกประตู

จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ Isofix ที่เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 ตำแหน่งในเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3

กล้องบันทึกภาพวิดีโอด้านหน้าและด้านหลังขณะขับขี่แบบ Built-in ที่เป็นมาตรฐาน

ด้วยระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นเหล่านี้ ทำให้ Isuzu MU-X ปี 2025 ไม่ได้เป็นแค่รถครอบครัวที่แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นป้อมปราการเคลื่อนที่ที่ปกป้องคนที่คุณรักได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง

Nissan GT-R: ตำนานของ “Godzilla” กับจิตวิญญาณแห่งสมรรถนะในยุคแห่งอนาคต

สำหรับ Nissan GT-R ปี 2017 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของ “Godzilla” ที่เปิดตัวในงาน New York International Auto Show ด้วยการปรับโฉมที่เน้นความดุดันและสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 565 แรงม้า คือหัวใจสำคัญที่ทำให้มันเป็น รถยนต์สมรรถนะสูง ที่ได้รับฉายาว่า “นักฆ่าซูเปอร์คาร์” ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

ในยุคปี 2025 ที่โลกก้าวเข้าสู่ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และความต้องการ ประสบการณ์ขับขี่เร้าใจ ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม Nissan GT-R ยังคงรักษา DNA แห่งความเร็วและนวัตกรรมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้ R35 จะเป็นรุ่นที่ยืนระยะมาอย่างยาวนาน แต่จิตวิญญาณของ GT-R ยังคงถูกส่งต่อและพัฒนาให้ก้าวทันโลก หรืออาจจะมองว่า R35 ในปี 2025 คือสุดยอดผลงานวิศวกรรมที่สมบูรณ์แบบในแบบของมันเอง และยังคงเป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในความเร็ว

การออกแบบที่คงความคลาสสิกแต่ล้ำหน้า:

ดีไซน์ของ GT-R ในปี 2025 (หรือรุ่น R35 ที่ได้รับการปรับปรุงต่อเนื่อง) ยังคงยึดมั่นในปรัชญา “Functional Beauty” รูปทรงที่เฉียบคมและเพรียวลม กระจังหน้า V-Motion ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nissan แต่ได้รับการปรับดีไซน์ให้ดุดันและทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมช่องระบายอากาศที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ลดแรงต้าน แต่ยังคงรักษาระดับแรงกด (Downforce) ที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ไฟหน้าและไฟท้าย LED ที่คมชัด ยังคงเอกลักษณ์ไฟท้ายแบบวงแหวน 4 ดวงอันเป็นสัญลักษณ์ของ GT-R ไว้ได้อย่างน่าประทับใจ การเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาในหลายส่วนของตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง แก้มข้าง หรือสปอยเลอร์หลัง ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ยังช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรถและเพิ่มความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ ซูเปอร์คาร์ ยุคใหม่

ห้องโดยสารที่ผสมผสานความหรูหราและประสิทธิภาพ:

ภายในห้องโดยสารของ GT-R ปี 2025 ได้รับการออกแบบให้มีความประณีตและเน้นการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่ แผงหน้าปัดและคอนโซลกลางหุ้มด้วยหนังชั้นดี ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันโดยทีมช่างฝีมือ TAKUMI ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของ Nissan รูปแบบการจัดวางอุปกรณ์ที่เรียบง่ายและใช้งานสะดวก เป็นผลมาจากการลดจำนวนสวิตช์ควบคุมลง และรวมฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันในหน้าจอสัมผัสขนาด 8 หรือ 9 นิ้ว ที่มาพร้อมกับไอคอนขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย

แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ (Paddle Shift) ที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัยทรงใหม่ ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ หรืออะลูมิเนียมขัดเงา ให้สัมผัสที่ตอบสนองได้ฉับไว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่บนสนามแข่งหรือถนนสาธารณะ การปรับปรุงระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร และการใช้วัสดุดูดซับเสียงใหม่ ยังช่วยให้ห้องโดยสารเงียบและนุ่มนวลขึ้นในทุกช่วงความเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ซูเปอร์คาร์หลายรุ่นในอดีมักจะมองข้าม

ขุมพลังและสมรรถนะที่ไร้ขีดจำกัด:

หัวใจของ Nissan GT-R คือเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 เครื่องยนต์บล็อกนี้อาจได้รับการเสริมด้วยเทคโนโลยี Hybrid หรือ Mild-Hybrid เพื่อเพิ่มกำลังขับเคลื่อนให้สูงขึ้นไปอีกระดับ แตะระดับ 600-700 แรงม้า หรือมากกว่านั้น โดยยังคงรักษาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและมลพิษให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ตามมาตรฐานสากล

เครื่องยนต์แต่ละบล็อกยังคงถูกประกอบด้วยมืออย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือ TAKUMI เพียงคนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ GT-R มีความพิเศษและมีจิตวิญญาณ ระบบส่งกำลังเกียร์คลัตช์คู่ 6 หรือ 7 จังหวะ ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความนุ่มนวลและฉับไวในการเปลี่ยนเกียร์มากขึ้น ผสานกับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ (ATTESA E-TS) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ GT-R ทำให้การยึดเกาะถนนและการเข้าโค้งอยู่ในระดับสูงสุด ไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นอย่างไร

ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนแบบปรับไฟฟ้า (Adaptive Suspension) หรือเทคโนโลยี Active Roll Control ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ตัวถังที่มีความทนทานต่อการบิดตัวที่ดีขึ้น และล้ออัลลอย Forged Aluminum ขนาด 20 นิ้ว ลายใหม่ ที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ GT-R ยังคงเป็นหนึ่งใน รถสปอร์ต ที่มอบ ประสบการณ์ขับขี่ ที่เหนือชั้นและน่าหลงใหลที่สุดในโลก แม้จะอยู่ในยุค 2025 ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง

เสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ดุดันและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการสะท้อนของเสียงที่มาจากหม้อพักท้ายที่ผลิตจากไทเทเนียม และระบบ Active Sound Enhancement (ASE) ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความเร้าใจในทุกครั้งที่เหยียบคันเร่ง

บทสรุปและก้าวต่อไปของยานยนต์ไทยปี 2025

จาก Isuzu MU-X สู่ Nissan GT-R เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการยานยนต์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และทิศทางของปี 2025 ก็ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเทคโนโลยีและความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญ Isuzu MU-X ได้พัฒนาจากรถครอบครัวที่คุ้มค่า สู่รถ PPV ที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีไฮบริด ความปลอดภัย ADAS และห้องโดยสารที่หรูหราและเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ ขณะที่ Nissan GT-R ยังคงรักษาบัลลังก์ของ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่มาพร้อมนวัตกรรมและจิตวิญญาณแห่งความเร็วที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าตลาด รถยนต์ไทย ในปี 2025 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในทุกเซ็กเมนต์ ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากตัวเลือกที่หลากหลาย เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การลงทุนใน นวัตกรรมยานยนต์ และการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์โลกคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคต

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนี้! หากคุณกำลังมองหารถยนต์คู่ใจคันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ครบครัน หรือรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่เติมเต็มความเร้าใจ ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์ขับขี่และนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตได้ที่โชว์รูมใกล้บ้านคุณวันนี้ เพื่อค้นพบว่ารุ่นล่าสุดของ Isuzu MU-X หรือ Nissan GT-R (ในรุ่นที่วางจำหน่าย ณ ปัจจุบัน) จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างไร!

Previous Post

N0611024 อยขนาดน วย งไม สนใจอ part2

Next Post

N0611018 นโดรน งเอ ญเจอเจ านายม ไรก บคนข างบ าน part2

Next Post
N0611018 นโดรน งเอ ญเจอเจ านายม ไรก บคนข างบ าน part2

N0611018 นโดรน งเอ ญเจอเจ านายม ไรก บคนข างบ าน part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.