• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0711010 แบบน ได เหรอ มาขอย มคอมท านคอมเพ อส มภาษณ งาน part2

admin79 by admin79
November 1, 2025
in Uncategorized
0
N0711010 แบบน ได เหรอ มาขอย มคอมท านคอมเพ อส มภาษณ งาน part2

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ก้าวกระโดดอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงจากพลังงานฟอสซิลสู่พลังงานทางเลือก การขับขี่อัจฉริยะ และการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ รถยนต์สองรุ่นที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในปี 2017 อย่าง ISUZU MU-X และ Nissan GT-R ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านวัตกรรมและการปรับตัวคือหัวใจสำคัญของการยืนหยัดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงการพัฒนาและการพลิกโฉมของสองไอคอนนี้ในบริบทของปี 2025 ซึ่งเป็นยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังมากกว่าแค่ยานพาหนะ แต่ต้องการประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ

ISUZU MU-X: จาก PPV ยอดนิยม สู่รถครอบครัวอัจฉริยะแห่งอนาคต (2025)

ย้อนกลับไปในปี 2017 ISUZU MU-X Minorchange ถือเป็นการยกระดับรถยนต์อเนกประสงค์ (PPV) ที่ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวและผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดันขึ้น เครื่องยนต์ Blue Power ที่เน้นความประหยัด และห้องโดยสาร 7 ที่นั่งที่กว้างขวาง เป็นรถที่วางรากฐานอันแข็งแกร่งในตลาด รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ของไทยได้อย่างน่าประทับใจ แต่ในโลกของปี 2025 นั้น MU-X ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ สู่การเป็นรถยนต์ SUV ครอบครัว ที่ผสมผสานความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

งานออกแบบภายนอกที่คมคายและล้ำสมัย:

ISUZU MU-X 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉมเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการต่อยอดปรัชญาการออกแบบ “Bold & Elegant” ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวผสานเข้ากับชุดไฟหน้า Bi-LED Matrix แบบ Adaptive ที่ไม่เพียงให้ความสว่างที่เหนือกว่า แต่ยังสามารถปรับการกระจายแสงอัตโนมัติตามสภาพถนนและรถสวนทาง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน เส้นสายด้านข้างตัวรถถูกออกแบบให้ดูพริ้วไหวแต่ยังคงความแข็งแกร่งตามแบบฉบับรถ PPV ขณะที่ไฟท้าย LED แบบ 3 มิติ “Winglet Signature” ที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ สร้างความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร การออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ตั้งแต่สปอยเลอร์หน้าจรดแนวหลังคา ช่วยลดแรงต้านอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่ที่ดูสปอร์ตและหรูหรา เข้ากับตัวรถในทุกมุมมอง

ห้องโดยสารที่ประณีต ตอบโจทย์ทุกการเชื่อมต่อ:

ก้าวเข้าสู่ภายในของ ISUZU MU-X 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เหนือระดับจากปี 2017 อย่างสิ้นเชิง วัสดุหนังเกรดพรีเมียม Soft Touch ที่ตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน โทนสีภายในที่อบอุ่นและลงตัว พร้อมกับการตกแต่งด้วยลายไม้และวัสดุ Piano Black ที่ช่วยเพิ่มความหรูหรา ความกว้างขวางของเบาะนั่ง 7 ที่นั่งยังคงเป็นจุดเด่น แต่ได้รับการปรับปรุงให้โอบรับสรีระและนั่งสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเบาะแถวที่ 2 และ 3 ที่มีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะที่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลของผู้ใหญ่ เบาะคู่หน้ามาพร้อมฟังก์ชันปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำและระบบระบายอากาศ ช่วยให้การเดินทางในสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

หัวใจของห้องโดยสารแห่งยุค 2025 คือระบบ Infotainment “ISUZU iConnect PRO” หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมการเชื่อมต่อ 5G ที่ให้ความเร็วในการประมวลผลและการสตรีมมิ่งที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีระบบผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง (AI Voice Assistant) ที่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถได้อย่างราบรื่น จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.5 นิ้ว ที่สามารถปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้ตามต้องการ ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างครบถ้วน ระบบเสียงรอบทิศทาง (Surround Sound System) พร้อมลำโพงระดับพรีเมียม 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์ความบันเทิงราวกับอยู่ในโรงภาพยนตร์ ส่วนผู้โดยสารตอนหลังก็ยังคงเพลิดเพลินกับจอภาพบนเพดานขนาด 12 นิ้ว พร้อมช่องจ่ายไฟ AC 220V และช่อง USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบ

ขุมพลัง Blue Power อัจฉริยะ พร้อมก้าวสู่ยุค Hybrid:

แม้ว่า ISUZU MU-X 2025 จะยังคงเน้นความยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ดีเซล Blue Power ทั้งขนาด 1.9 DDi และ 3.0 DDi ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้าน แรงบิดสูงสุด และ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ที่เป็นเลิศ แต่สิ่งที่น่าจับตาคือแนวโน้มการนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล Mild-Hybrid สำหรับรุ่นท็อป ซึ่งเป็นการผสานพลังงานไฟฟ้าเข้ากับเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัว ลดการปล่อยมลพิษ (Low Emissions) และเพิ่มความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Efficiency) ให้เหนือกว่าเดิม ระบบส่งกำลังยังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่ได้รับการปรับจูนใหม่ให้เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลและตอบสนองได้ฉับไวขึ้น พร้อมโหมด Rev Tronic และ Genius Sport Shift ที่ช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time “Terrain Command” ได้รับการอัปเกรดด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลายขึ้น เพื่อให้มั่นใจในการลุยทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นโคลน ทราย หรือหิมะ

ช่วงล่างและการควบคุมที่เหนือกว่า:

ปัญหาอาการโคลงเคลงในรถยนต์ PPV บนโครงสร้างแชสซีส์บันได (Chassis-on-frame) ที่เคยเป็นประเด็นในปี 2017 ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังใน MU-X 2025 ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Active Suspension พร้อมเหล็กกันโคลงและโช้คอัพแก๊สประสิทธิภาพสูง ผสานกับการปรับจูนที่ละเอียดอ่อน ทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวล มั่นคง และเกาะถนนยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering – EPS) มอบการควบคุมที่แม่นยำและน้ำหนักพวงมาลัยที่ผ่อนคลายในความเร็วต่ำแต่หน่วงมือเมื่อใช้ความเร็วสูง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้ ขับขี่สบาย และควบคุมง่ายในทุกสถานการณ์

ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS 2025:

จุดเด่นที่สำคัญของ ISUZU MU-X 2025 คือชุดระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับที่ครบครันยิ่งกว่าเดิม ระบบ ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ได้รับการติดตั้งมาอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:

Adaptive Cruise Control with Stop & Go (ACC): ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า และสามารถหยุดและออกตัวได้เองในการจราจรติดขัด

Lane Keeping Assist (LKA) และ Lane Departure Warning (LDW): ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางและเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

Blind Spot Monitoring (BSM) และ Rear Cross Traffic Alert (RCTA): ตรวจจับรถในจุดอับสายตาและเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง

Autonomous Emergency Braking (AEB) with Pedestrian & Cyclist Detection: ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินเท้าและจักรยาน

Parking Assist System: ระบบช่วยจอดอัจฉริยะที่ทำให้การจอดรถเป็นเรื่องง่าย

นอกจากนี้ ยังมีถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง โครงสร้างตัวถังเสริมเหล็กกล้า High Tensile Strength Steel ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมฟังก์ชัน “Transparent Chassis” ที่ช่วยให้มองเห็นพื้นผิวใต้ท้องรถ เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ทุกเส้นทาง

ในภาพรวม ISUZU MU-X 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่าการเป็น รถครอบครัวอเนกประสงค์ ไม่ได้หมายถึงการประนีประนอมกับสิ่งใด แต่คือการนำเสนอประสบการณ์ที่ครบครัน สมบูรณ์แบบ และล้ำหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง

Nissan GT-R: ตำนานความเร็วที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สู่การผงาดในยุค EV (2025)

ในขณะที่ ISUZU MU-X มุ่งสู่ความอเนกประสงค์และเทคโนโลยีเพื่อครอบครัว Nissan GT-R หรือ “Godzilla” ได้เดินบนเส้นทางที่แตกต่างออกไป นั่นคือการแสวงหาสุดยอดแห่ง สมรรถนะสูง และ ความเร็ว อย่างไม่หยุดยั้ง จากการเปิดตัว Minorchange ในปี 2017 ที่ New York International Auto Show ด้วยการปรับโฉมภายนอกที่ดุดัน ภายในที่หรูหราขึ้น และขุมพลัง V6 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ 565 แรงม้าที่ได้รับการจูนอย่างละเอียดโดยทีมช่างฝีมือ TAKUMI GT-R ได้ตอกย้ำสถานะของ ซุปเปอร์คาร์ญี่ปุ่น ที่สามารถท้าทายคู่แข่งจากยุโรปได้อย่างสมศักดิ์ศรี

แต่ในโลกของปี 2025 ที่ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น GT-R ได้ปรับตัวอย่างไร? แม้ว่า R35 จะเป็นแพลตฟอร์มที่คงทนและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมานานกว่าทศวรรษ แต่ Nissan ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันขีดจำกัดของมันไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

การออกแบบที่เน้นฟังก์ชันและคงเอกลักษณ์:

Nissan GT-R 2025 ยังคงรักษา Silhouette ที่เป็นเอกลักษณ์ของ R35 ไว้ แต่ทุกส่วนได้รับการปรับปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic Efficiency) กระจังหน้า V-Motion ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยช่องดักลมและสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์รอบคันที่ช่วยเพิ่มแรงกด (Downforce) ได้อย่างมหาศาล ทำให้รถยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมในความเร็วสูง ไฟหน้า LED Matrix ดีไซน์ใหม่ที่คมคายและทันสมัย พร้อมไฟท้ายวงแหวน 4 ดวงที่เป็นลายเซ็นของ GT-R ได้รับการออกแบบให้ดูมีมิติและดุดันยิ่งขึ้น การใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า หลังคา หรือชิ้นส่วนตัวถังอื่นๆ ช่วยลดน้ำหนักตัวรถได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลโดยตรงต่ออัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดีขึ้น

ห้องโดยสารที่ผสมผสานความหรูหราและเทคโนโลยีสนามแข่ง:

ภายในห้องโดยสารของ GT-R 2025 ยังคงเน้นการเป็นห้องนักบินสำหรับผู้ขับขี่ แต่ยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้น ด้วยการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมอย่างหนัง Nappa และ Alcantara ที่ตัดเย็บด้วยมืออย่างประณีต แผงคอนโซลกลางยังคงเรียบง่ายแต่ผสานเทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการแสดงผลได้หลากหลาย รวมถึงโหมด Race ที่เน้นข้อมูลสำคัญสำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง หน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อที่ทันสมัย พร้อมระบบ Telemetry และ Performance Data Recorder ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่ได้อย่างละเอียด เพื่อปรับปรุงทักษะการขับขี่ แป้น Paddle Shift คาร์บอนไฟเบอร์ที่อยู่บนพวงมาลัยทรงสปอร์ตใหม่ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำในทุกจังหวะ

ขุมพลัง VR38DETT ที่แรงกว่าเดิม พร้อมออปชั่น Mild-Hybrid?

หัวใจของ Nissan GT-R 2025 ยังคงเป็นเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ VR38DETT ที่ได้รับการปรับปรุงและจูนใหม่ให้มีพละกำลังที่เหนือกว่ารุ่น 2017 ไปอีกขั้น คาดการณ์ว่าในรุ่นมาตรฐานจะมีแรงม้าทะลุ 600 แรงม้าอย่างแน่นอน และในรุ่น Nismo อาจจะพุ่งสูงไปถึง 700 แรงม้า ด้วยการปรับปรุงระบบหัวฉีด เทอร์โบชาร์จเจอร์ และการควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องยนต์ สิ่งที่น่าสนใจคือทิศทางในอนาคตของ Nissan ที่อาจพิจารณาการนำระบบ Mild-Hybrid มาเสริม เพื่อให้ GT-R มีอัตราเร่งที่รุนแรงขึ้นตั้งแต่รอบต่ำ (Instant Torque) และยังคงความเป็น รถสปอร์ตประหยัดน้ำมัน ในแบบที่ซุปเปอร์คาร์คันอื่นอาจตามไม่ทัน (ในแง่ของเทคโนโลยีที่ใช้) ระบบเกียร์คลัตช์คู่ 6 จังหวะ (Dual-Clutch Transmission) ได้รับการพัฒนาให้เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วยิ่งขึ้นและทนทานต่อแรงบิดมหาศาล ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ATTESA E-TS ที่เป็นเอกลักษณ์ของ GT-R ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการส่งกำลังลงสู่พื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาพการขับขี่

ช่วงล่างและการบังคับควบคุมระดับสนามแข่ง:

Nissan GT-R 2025 ยกระดับการบังคับควบคุมไปอีกขั้น ด้วยโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากการใช้วัสดุน้ำหนักเบาและแข็งแรงสูง ช่วงล่าง Adaptive Suspension ที่ได้รับการปรับจูนใหม่ร่วมกับ Bilstein DampTronic ซึ่งเป็นวิวัฒนาการล่าสุด มอบความสามารถในการปรับการตอบสนองของช่วงล่างได้ทันทีตามสภาพถนนและโหมดการขับขี่ ทำให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แต่ยังคงความนุ่มนวลในการขับขี่บนถนนทั่วไป ระบบเบรก Carbon Ceramic Performance ขนาดใหญ่ที่จับคู่กับคาลิปเปอร์เบรก Brembo 6-pot ในด้านหน้าและ 4-pot ในด้านหลัง ให้พลังการหยุดรถที่เหนือชั้น ล้ออัลลอย Forged Aluminum ลาย Y-Spoke ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ GT-R โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนสูงสุด

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและการขับขี่:

แม้ว่า GT-R จะเน้นสมรรถนะเป็นหลัก แต่ก็ไม่ละเลยเรื่องความปลอดภัย ในรุ่น 2025 มีการติดตั้งระบบ ADAS ขั้นพื้นฐาน เช่น Blind Spot Warning และ Rear Cross Traffic Alert เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานประจำวัน รวมถึงระบบ Traction Control และ Stability Control ที่ปรับแต่งได้ละเอียด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถดึงสมรรถนะของรถออกมาได้อย่างเต็มที่แต่ยังคงอยู่ในความควบคุม

Nissan GT-R 2025 ไม่ได้เป็นเพียงรถสปอร์ตทั่วไป แต่คือบทสรุปของตำนานแห่งนวัตกรรมที่ท้าทายขีดจำกัดมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้ในยุคที่ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง กำลังเข้ามามีบทบาท มนต์เสน่ห์ของเครื่องยนต์สันดาปที่ได้รับการปรุงแต่งอย่างสมบูรณ์แบบยังคงมีพลังดึงดูด และ GT-R ก็พร้อมที่จะสานต่อตำนานแห่งความเร็วนี้ต่อไป

บทสรุปและก้าวสู่ประสบการณ์แห่งอนาคต

จาก ISUZU MU-X ที่เป็น รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่พลิกโฉมสู่การเป็นรถครอบครัวอัจฉริยะที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและความปลอดภัย ไปจนถึง Nissan GT-R ซุปเปอร์คาร์สมรรถนะสูง ที่ยังคงยืนหยัดและพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งในยุคที่ยานยนต์ไฟฟ้ากำลังรุ่งเรือง ทั้งสองรุ่นนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการปรับตัวและวิวัฒนาการในอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2025 ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มองหารถยนต์ ประหยัดน้ำมัน สำหรับครอบครัว หรือปรารถนา รถสปอร์ต ที่มอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจสูงสุด ตลาดรถยนต์ในวันนี้มีคำตอบที่พร้อมเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการ

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต ที่ผสานความล้ำหน้าของเทคโนโลยี สมรรถนะที่เหนือชั้น และความปลอดภัยที่วางใจได้ เราขอเชิญคุณมาทดลองสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้ ที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายของเราทั่วประเทศ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นรถยนต์ที่คุณสนใจ และร่วมค้นพบยานยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณในแบบฉบับของปี 2025 ได้แล้ววันนี้!

Previous Post

N0711007 ณชายเพลย บอย แอบม ไรก บแม าน ดท ายได เป นแฟน (1) part2

Next Post

N0711004 เด กเสร ฟถ กเพ อนเอาเปร ยบ มาขอแบ งท ปท กค าให แบบน ใครผ ดใครถ #พ คตอนจบ part2

Next Post
N0711004 เด กเสร ฟถ กเพ อนเอาเปร ยบ มาขอแบ งท ปท กค าให แบบน ใครผ ดใครถ #พ คตอนจบ part2

N0711004 เด กเสร ฟถ กเพ อนเอาเปร ยบ มาขอแบ งท ปท กค าให แบบน ใครผ ดใครถ #พ คตอนจบ part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.