ในฐานะผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมมักได้รับคำถามยอดฮิตจากลูกค้าและผู้สนใจเสมอว่า “ระหว่าง Mercedes-Benz และ BMW ควรเลือกคันไหนดี?” นี่ไม่ใช่แค่การตัดสินใจซื้อรถยนต์ แต่เป็นการเลือกสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ที่ต้องพิจารณาอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของตลาดรถยนต์หรูที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปี 2025 นี้ การแข่งขันระหว่างสองแบรนด์ Mercedes-Benz และ BMW คู่ปรับตลอดกาลจากเยอรมนี ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สมรรถนะหรือดีไซน์อีกต่อไป แต่ขยายไปถึงนวัตกรรม ความยั่งยืน และประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่เหนือกว่า
จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นว่าความลังเลนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ต่างก็เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา วิศวกรรมอันล้ำเลิศ และสถานะทางสังคมมาอย่างยาวนาน ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงตลาดทั่วโลก บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจเบื้องลึกเบื้องหลัง วิเคราะห์ภาพลักษณ์ แนวคิด นวัตกรรม และทิศทางในอนาคตของสองแบรนด์รถยนต์หรูชั้นนำนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์หรูไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด
ภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนผ่าน: Mercedes-Benz และ BMW ในสายตาผู้บริโภคยุคใหม่
หากย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ภาพลักษณ์ของ Mercedes-Benz และ BMW ในสายตาคนไทยค่อนข้างชัดเจนและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง Mercedes-Benz มักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความสง่างาม ความสุขุม และความภูมิฐาน เหมาะสำหรับผู้บริหารหรือผู้ใหญ่ที่มองหารถที่สะท้อนความมั่นคงและประสบความสำเร็จ ในขณะที่ BMW โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่สปอร์ต ดุดัน ทันสมัย และเน้นสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความท้าทายและความคล่องตัว
แต่ในปัจจุบัน ด้วยกลยุทธ์การตลาดและการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ภาพลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์เริ่มมีการปรับเปลี่ยนและผสมผสานกันมากขึ้น Mercedes-Benz ได้เปิดตัวรถยนต์ในกลุ่ม AMG และ EQ ที่เน้นดีไซน์โฉบเฉี่ยวและเทคโนโลยีล้ำสมัย ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวมากขึ้น สลัดภาพลักษณ์ “รถผู้ใหญ่” ออกไปได้อย่างน่าทึ่ง ขณะเดียวกัน BMW ก็ไม่หยุดนิ่งในการยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมทั้งขยายไลน์อัพรถยนต์ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยยังคงรักษา DNA แห่งการขับขี่ที่สนุกสนานเอาไว้ได้อย่างลงตัว
ในระดับสากล การรับรู้ก็มีความคล้ายคลึงกัน Mercedes-Benz ยังคงเป็นผู้นำด้านความหรูหรา สง่างาม และเป็นที่ยอมรับในเรื่องความปลอดภัยและความสมบูรณ์แบบ สะท้อนความมั่นใจและความเป็นผู้นำ ขณะที่ BMW เป็นที่รู้จักในเรื่องความสนุกสนาน พลังงาน และความน่าตื่นเต้น มักจะดึงดูดผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ และชื่นชอบเทคโนโลยีที่ทันสมัย การเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ก็สะท้อนสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน Mercedes-Benz มักเลือกบุคคลที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ มีความน่าเชื่อถือ เช่น Roger Federer นักเทนนิสระดับโลก ในขณะที่ BMW หันมาจับกลุ่มคนดังที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมสมัยนิยม เช่น Jackson Wang ที่สะท้อนความเป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย และมีพลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับลูกค้าในยุคดิจิทัล
สองตำนานแห่งวิศวกรรมเยอรมัน: ประวัติศาสตร์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรม
ทั้ง Mercedes-Benz และ BMW มีรากฐานอันแข็งแกร่งและประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าศตวรรษในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี พวกเขาทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของ “German Big 3” ที่รวมถึง Audi ด้วย ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์หรูที่มียอดขายดีที่สุดในโลก การแข่งขันของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แต่เป็นการผลักดันขีดจำกัดของวิศวกรรมและนวัตกรรมยานยนต์มาโดยตลอด
Mercedes-Benz: ก่อตั้งขึ้นในปี 1926 จากการรวมตัวของ Daimler-Motoren-Gesellschaft (DMG) โดย Gottlieb Daimler และ Benz & Cie. โดย Carl Benz ผู้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกของโลก การผนึกกำลังกันในครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับความหรูหรา ความปลอดภัย และนวัตกรรม วิศวกรรมของ Mercedes-Benz มุ่งเน้นการสร้างสรรค์รถยนต์ที่ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพ แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ พร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุดตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์
BMW: เริ่มต้นในปี 1917 ในฐานะผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยาน ก่อนที่จะเผชิญกับข้อจำกัดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ต้องหันมาผลิตรถจักรยานยนต์ในปี 1923 และรถยนต์ในปี 1928 การเดินทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ รวมถึงการฟื้นตัวจากผลกระทบของสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ BMW พัฒนาปรัชญา “Sheer Driving Pleasure” ที่มุ่งเน้นสมรรถนะการขับขี่ ความเป็นสปอร์ต และการตอบสนองที่แม่นยำของรถยนต์ โลโก้ของ BMW ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นใบพัดเครื่องบินนั้น แท้จริงแล้วได้รับแรงบันดาลใจจากสีประจำแคว้นบาวาเรีย สีฟ้าและขาว ที่ถูกจัดเรียงใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงรากเหง้าอันลึกซึ้งของบริษัทในภูมิภาคนี้ การเดินทางของ BMW เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร
Mercedes-Benz และ BMW ในตลาดรถยนต์หรูไทย: ศึกแห่งความเป็นผู้นำ
ตลาดรถยนต์หรูไทยเป็นสมรภูมิที่สำคัญสำหรับทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างก็มีเรื่องราวและการเดินทางที่น่าสนใจ
Mercedes-Benz ประเทศไทย: ดาวสามแฉกเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) เมื่อกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ทรงสั่งซื้อรถยนต์ Mercedes เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ถือเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกและเป็นรถ Mercedes-Benz คันแรกในสยาม ทำให้แบรนด์นี้มีภาพลักษณ์ของ “รถเจ้านาย” และ “รถของผู้มีฐานะ” มาตั้งแต่แรกเริ่ม ตลอดหลายทศวรรษ Mercedes-Benz ได้สร้างเครือข่ายผู้จำหน่ายที่แข็งแกร่ง เริ่มตั้งแต่ ห้างบี. กริมม์ และต่อมา บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด ได้เข้ามาเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรก ในปี พ.ศ. 2541 ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ บริษัทแม่จากเยอรมนีเล็งเห็นศักยภาพของตลาด จึงได้เข้ามาจัดตั้ง บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดูแลการดำเนินงานทั้งหมดตั้งแต่การนำเข้า การประกอบ ไปจนถึงบริการหลังการขาย ทำให้ Mercedes-Benz ประเทศไทย ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถหรูต่อเนื่องมายาวนาน โดยมีเครือข่ายดีลเลอร์และศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงบริการทางการเงินอย่าง Mercedes-Benz Leasing เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร
BMW ประเทศไทย: การเดินทางของ BMW ในประเทศไทยเริ่มต้นจากการนำเข้ารถยนต์โดยบริษัท เอเซีย มอเตอร์ (บางกอก) จำกัด โดยตระกูลลีนุตพงษ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ BMW เป็นพิเศษ ยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ BMW AG แต่งตั้งให้กลุ่มยนตรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในปี พ.ศ. 2504 อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 BMW AG ได้ตัดสินใจเข้ามาดูแลการตลาดและการขายเอง โดยมีการจัดตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทยเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุน แม้ตระกูลลีนุตพงษ์จะไม่ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวอีกต่อไป แต่ก็ยังคงเป็นดีลเลอร์รายสำคัญภายใต้ชื่อ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด BMW ประเทศไทย ได้รับการยอมรับในด้านการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำถึงประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีและชื่นชอบความสปอร์ตและความเป็นเอกลักษณ์ของ BMW
ในภาพรวม ตลาดรถหรูไทยมีการแข่งขันที่ดุเดือด โดยที่ทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ต่างก็ลงทุนอย่างมหาศาลในการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และเมืองหลักต่างๆ การมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่ประทับใจ การเข้าถึงสินเชื่อรถหรูที่ยืดหยุ่น และการให้บริการหลังการขายรถหรูที่มีคุณภาพ จึงเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าในตลาดนี้ ซึ่งผู้ซื้อรถหรูยังคงให้ความสำคัญอย่างมากกับความมั่นใจในการซ่อมบำรุงรถยุโรปและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาในระยะยาว
ก้าวสู่ยุคใหม่: นวัตกรรมและอนาคตของ Mercedes-Benz และ BMW ในปี 2025
ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยแนวโน้มหลัก 4 ประการ ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV), รถยนต์ที่เชื่อมต่อกับระบบอัจฉริยะ (Connected Car), ยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car) และระบบ Car Sharing ซึ่งทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ต่างก็ก้าวเข้าสู่สนามการแข่งขันนี้อย่างเต็มตัว พร้อมกำหนดกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนและความเป็นเลิศ
Mercedes-Benz: แบรนด์ดาวสามแฉกมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ย่อย EQ ที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ในประเทศไทยเอง Mercedes-Benz ได้เริ่มนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดตั้งแต่ปี 2559 และลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในหกแห่งทั่วโลก เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ก้าวหน้า และระบบอินโฟเทนเมนต์ “Mercedes me connect” ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์และบริการต่างๆ ได้อย่างราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน ยังคงเป็นจุดแข็งที่ Mercedes-Benz พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งปลอดภัย สะดวกสบาย และเป็นส่วนตัว
BMW: แบรนด์ใบพัดสีฟ้า-ขาวก็ไม่แพ้กัน BMW ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนอนาคตของยานยนต์ ด้วยการลงทุนมหาศาลในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2555 และประสบความสำเร็จอย่างสูงกับรถยนต์ในตระกูล ‘i’ ทั้ง PHEV และ BEV ทั่วโลก BMW ตั้งเป้าที่จะมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากว่า 25 รุ่นออกสู่ตลาดภายในปี 2568 โดย 12 รุ่นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% โรงงานของ BMW ประเทศไทย เองก็มีการขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหลายรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด การตลาดเชิงอารมณ์ (Emotional Marketing) ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของ BMW ที่ตอกย้ำถึงความรู้สึกว่า “ไม่ใช่รถอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็น BMW เท่านั้น” พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง BMW Intelligent Personal Assistant ระบบสั่งการด้วยเสียงที่เรียนรู้และเข้าใจผู้ใช้งานได้ และ BMW ConnectedDrive ที่มอบความสามารถในการควบคุมรถจากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้สมรรถนะรถยนต์และประสบการณ์การขับขี่ในยุคไฟฟ้ายังคงเอกลักษณ์ของ BMW ไว้ได้อย่างครบถ้วน
ในการแข่งขันด้านนวัตกรรมนี้ ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ต่างก็ผลักดันกันและกันให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีร่วมกันในบางส่วน แต่ก็ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดในด้านคุณภาพ สมรรถนะ ดีไซน์ และนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่และระบบอินโฟเทนเมนต์ให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้นในยุค 2025 โดยราคา Mercedes-Benz และราคา BMW สำหรับรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้า มักจะสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ก็มีการพัฒนาข้อเสนอสินเชื่อรถหรูและประกันรถยนต์หรูที่น่าสนใจ เพื่อให้การเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมเหล่านี้ง่ายขึ้น
เส้นทางแห่งการเป็นเจ้าของ: มากกว่าแค่รถยนต์
การตัดสินใจซื้อรถยนต์หรูอย่าง Mercedes-Benz หรือ BMW ไม่ได้จบลงที่โชว์รูม แต่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งการเป็นเจ้าของที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ด้วยประสบการณ์ของผม ผมพบว่านอกจากสมรรถนะและภาพลักษณ์แล้ว สิ่งสำคัญที่ลูกค้ามองหาคือคุณค่าที่มาพร้อมกับการลงทุนนี้
ราคาและคุณค่า: ทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ต่างก็ตั้งราคาอยู่ในระดับพรีเมียม ซึ่งสะท้อนถึงวิศวกรรมที่ซับซ้อน วัสดุคุณภาพสูง และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า การทำความเข้าใจราคา Mercedes-Benz และราคา BMW รวมถึงตัวเลือกการปรับแต่งต่างๆ จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของงบประมาณที่ต้องใช้
บริการหลังการขาย: นี่คือจุดตัดสินใจสำคัญสำหรับรถหรู โดยเฉพาะรถยนต์ยุโรป บริการหลังการขายรถหรูที่ดีเยี่ยม การเข้าถึงศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน และความพร้อมของอะไหล่ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงรถยุโรป เป็นสิ่งที่ทั้งสองแบรนด์ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง Mercedes-Benz ประเทศไทย และ BMW ประเทศไทย ต่างก็มีเครือข่ายศูนย์บริการและดีลเลอร์ที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เพื่อมอบความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า
สินเชื่อและประกัน: การเป็นเจ้าของรถหรูมักมาพร้อมกับข้อเสนอสินเชื่อรถหรูและประกันรถยนต์หรูที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างเหมาะสม การเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้การเป็นเจ้าของราบรื่นยิ่งขึ้น
มูลค่าในอนาคต: ตลาดรถหรูมือสองก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา รถยนต์ที่ได้รับการดูแลอย่างดี และมีประวัติบริการที่ชัดเจน มักจะรักษามูลค่าได้ดีกว่า
บทสรุป: ศึกที่สร้างสรรค์เพื่อผู้บริโภค
กล่าวโดยสรุป การแข่งขันระหว่าง Mercedes-Benz และ BMW ในตลาดรถยนต์หรู ไม่ใช่แค่การชิงความเป็นหนึ่ง แต่เป็นการแข่งขันที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์ สมรรถนะ นวัตกรรม หรือความยั่งยืน ทั้งสองแบรนด์ต่างก็อยู่ในแถวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ และพร้อมที่จะกำหนดอนาคตของยานยนต์โลก
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเลือกรถยนต์หรูสักคัน ไม่ว่าจะมองหาความหรูหราสง่างามแบบ Mercedes-Benz หรือความสปอร์ตเร้าใจและเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบ BMW สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจในปรัชญาของแต่ละแบรนด์ และว่าแบรนด์ใดที่สะท้อนความเป็นตัวคุณและตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง การได้ลองสัมผัสประสบการณ์การขับขี่จริง และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่โชว์รูม จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และนำไปสู่การตัดสินใจที่สมบูรณ์แบบ
หากท่านพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกของรถยนต์หรูแห่งอนาคต และต้องการคำแนะนำที่ปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์ในการเลือกสรรค์รถยนต์หรูที่เหมาะสมกับคุณที่สุด ขอเชิญท่านเยี่ยมชมโชว์รูม Mercedes-Benz หรือ BMW ประเทศไทย ใกล้บ้านท่าน หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อสัมผัสกับนวัตกรรมและบริการระดับพรีเมียมที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ของคุณไปตลอดกาล ทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโมเดล การทำความเข้าใจราคา Mercedes-Benz หรือราคา BMW ไปจนถึงข้อเสนอสินเชื่อและประกันภัย เพื่อให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจที่สุด.

