เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย: ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2568 ยกระดับประสบการณ์ลักชัวรี ขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นใหม่
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและทั่วโลกมาอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดลักชัวรี ซึ่งเป็นตลาดที่ซับซ้อนและมีการแข่งขันสูง การปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสภาวะเศรษฐกิจ คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโต
ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางธุรกิจสำหรับปี 2568 ภายใต้สโลแกน “Brand at Heart, Performance in Mind” ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนประสิทธิภาพทางธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การประกาศนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการมาถึงของยุคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และความคาดหวังที่สูงขึ้นของผู้บริโภคในทุกมิติ
ภาพรวมการดำเนินงานปี 2567: บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทาย
ปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงตลาดลักชัวรีในประเทศไทย สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงผันผวน อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวสูง และการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เมอร์เซ-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งไว้ได้ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดและความสามารถในการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
ยอดขายทั่วโลกและในประเทศไทย: เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป มียอดขายทั่วโลกสูงถึง 2,389,000 คันในปี 2567 แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 1,983,400 คัน และรถแวน 405,600 คัน ในประเทศไทยเองก็มีการเติบโตที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในกลุ่ม Top-End Luxury และรถยนต์นั่งขนาดกลางอย่าง Mercedes-Benz E-Class ที่มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การเปิดตัวยนตรกรรมใหม่: ตลอดปี 2567 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่กว่า 25 รุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ Entry Luxury ไปจนถึง Top-End Luxury โดยมีไฮไลท์สำคัญคือ The new E-Class ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยยอดขายที่เติบโตถึง 65% นอกจากนี้ ยังได้เสริมไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างต่อเนื่อง ทั้งรุ่นที่ผลิตในประเทศและนำเข้า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหารถยนต์พลังงานทางเลือกที่มาพร้อมสมรรถนะและความหรูหรา
การผลิตในประเทศไทย: การเฉลิมฉลองการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยครบ 200,000 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี
วิสัยทัศน์ปี 2568: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งประสบการณ์ลักชัวรีและยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ “Brand at Heart, Performance in Mind” โดยมุ่งเน้น 3 เสาหลักสำคัญ:
ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Elevation): การสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับลูกค้า ผ่านการนำเสนอประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกจุดสัมผัส (Customer Touchpoints) และการจัดกิจกรรมที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
ขับเคลื่อนผลประกอบการ (Performance Driven): การดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ การเติบโตของยอดขาย และการรักษาอัตรากำไร ด้วยกลยุทธ์ด้านราคาที่สะท้อนถึงคุณค่าและความคุ้มค่าในระยะยาว
ขยายไลน์อัพยานยนต์ (Product Expansion): การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100%
ไฮไลท์สำคัญประจำปี 2568:
การเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นใหม่ ในงาน Motor Show 2025: เพื่อสร้างสีสันและความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงต้นปี เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเสนอสุดยอดยนตรกรรมสมรรถนะสูงจาก Mercedes-AMG ถึง 3 รุ่นใหม่ ในงาน Motor Show 2025 ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ล้ำสมัย ตอบสนองความต้องการของนักขับที่มองหาสมรรถนะที่เหนือกว่า
การผลักดันตลาด EV ด้วย “EV Worry-Free Package”: เพื่อลดข้อกังวลและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า 100% เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอแพ็กเกจพิเศษ “EV Worry-Free Package” สำหรับรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art โดยมีข้อเสนอค่างวดเริ่มต้นที่ 45,000 บาทต่อเดือน โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ก้อนแรกและก้อนสุดท้าย ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า
การต่อยอดโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” และ MAR20X: เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์การขายและการบริการตามแนวคิด “Retail of the Future” โดยการนำแนวคิด MAR20X (Mercedes-Benz Retail Experience) มาปรับใช้ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการพัฒนาช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า การพัฒนาบุคลากร การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และการปรับปรุงสถาปัตยกรรมของโชว์รูมและศูนย์บริการ ตั้งเป้าขยายการดำเนินงานตามแนวคิด MAR20X ให้ครอบคลุมกว่า 90% ของตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการทั้งหมดภายในปี 2570
กลยุทธ์ด้านราคา (Pricing Strategy) เพื่อการคงมูลค่า: การกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาอย่างรอบคอบ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และสะท้อนถึงการคงมูลค่าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในระยะยาว ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้แบรนด์นี้ยังคงครองใจผู้บริโภคระดับสูง
เครือข่ายที่แข็งแกร่ง: ด้วยจำนวนตัวแทนจำหน่ายกว่า 33 แห่ง และศูนย์บริการรวม 41 แห่งทั่วประเทศ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงเป็นแบรนด์รถยนต์ลักชัวรีที่มีเครือข่ายครอบคลุมมากที่สุด ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกสบาย
ประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือระดับ: กิจกรรมและการบริการ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้กับลูกค้า ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายและบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน
กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์: ตลอดทั้งปี 2568 จะมีกิจกรรมพิเศษมากมาย จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้า ตั้งแต่กิจกรรม Road Trip สำหรับรถคลาสสิก การแข่งขัน Mercedes-Benz Driving Events และ SUV Driving Events ไปจนถึงการกลับมาของรายการแข่งขันกอล์ฟ MercedesTrophy
บริการหลังการขายที่เป็นเลิศ: ในส่วนของฝ่ายบริการลูกค้า มีความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจจากการเติบโตของยอดขายแพ็กเกจ MBSP และ MBSP Extra Guarantee Lite รวมถึงผลิตภัณฑ์ MBTires และ Digital Extras บนแพลตฟอร์ม Mercedes-Benz Store การเปิดตัว Service Select Loyalty Program สำหรับลูกค้าเก่า จะยิ่งช่วยเสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์
นวัตกรรมบริการดิจิทัล: การยกระดับประสบการณ์ด้านดิจิทัล ผ่านบริการ Digital Extras ที่มีแพ็กเกจเสริมอย่าง Entertainment Package Plus จะมอบความสะดวกสบายและความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานในระหว่างการเดินทาง
มาตรฐานระดับโลก: กิจกรรม Nationwide Service Clinics ร่วมกับทีม Flying Doctor จากประเทศเยอรมนี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 จะช่วยยืนยันถึงมาตรฐานการบริการระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์
อนาคตของตลาดรถยนต์ลักชัวรีในประเทศไทย: โอกาสและความท้าทาย
จากการพูดคุยกับผู้บริหารในวงการยานยนต์หลายท่าน พบว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ลักชัวรีในปี 2568 ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตลาดกลุ่มนี้ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่ม Top-End Luxury ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่น
การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV): ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) และพรีเมียม SUV คาดว่าจะมีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพการแข่งขัน และการปรับลดลงของต้นทุนแบตเตอรี่จะส่งผลให้ราคาขายของรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง
การปรับกลยุทธ์ของแบรนด์: แบรนด์รถยนต์หรูหลายแบรนด์กำลังปรับกลยุทธ์ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นในกลุ่มอัลตราลักชัวรี พร้อมกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมด้วยรถยนต์สันดาปและรถยนต์พลังงานทางเลือก
ความสำคัญของประสบการณ์ลูกค้า: ในสภาวะตลาดที่ซับซ้อน การสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า การบริการที่ประทับใจ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบรนด์สามารถรักษาความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
บทสรุป
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การลงทุนในนวัตกรรม และการมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จาก Mercedes-AMG ในงาน Motor Show 2025 และการนำเสนอแพ็กเกจพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ล้วนเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไปข้างหน้า
ในฐานะผู้ที่อยู่ในวงการนี้ ผมเชื่อมั่นว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ลักชัวรี ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เหนือชั้น เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และการบริการที่เอาใจใส่ลูกค้า
หากคุณคือผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่สะท้อนถึงรสนิยม ความสำเร็จ และพร้อมที่จะสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ หรือกำลังพิจารณาเปลี่ยนสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมความอุ่นใจสูงสุด อย่ารอช้า ติดต่อผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใกล้บ้านคุณ หรือเยี่ยมชมโชว์รูมเพื่อสัมผัสยนตรกรรมแห่งอนาคตด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะพบว่าทำไมเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงยังคงเป็น “ที่สุดแห่งยนตรกรรม” ในใจใครหลายคนเสมอมา.

