EREV: พลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต ยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง สู่ตลาดไทยปี 2568
ในยุคที่เทคโนโลยียานยนต์กำลังก้าวกระโดดอย่างไม่หยุดยั้ง การมาถึงของ รถยนต์ EREV (Extended-Range Electric Vehicle) หรือที่รู้จักกันในชื่อ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังจะพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน การคาดการณ์ถึงการบุกตลาดไทยของรถยนต์ EREV หลายรุ่นในปี 2568 นี้ ไม่ว่าจะเป็น Avatr 07 EREV, Deepal S05 EREV, หรือ Changan Hunter EREV ล้วนสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการยานยนต์เป็นอย่างมาก ในฐานะผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมขอนำพาทุกท่านเจาะลึกทำความเข้าใจเทคโนโลยี EREV ที่กำลังจะกลายเป็น “The Next Big Thing” ในตลาดประเทศไทย
ทำความรู้จัก EREV: นวัตกรรมที่ผสานข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป
แก่นแท้ของเทคโนโลยี EREV คือการทำงานบนพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักในการขับเคลื่อน แต่สิ่งที่ทำให้ EREV แตกต่างและน่าสนใจอย่างยิ่ง คือการมีเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ามาทำหน้าที่เป็น “เครื่องปั่นไฟ” เสริม ตัวเครื่องยนต์นี้ไม่ได้ส่งกำลังโดยตรงไปยังล้อ แต่จะทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ หรือส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อนโดยตรงเมื่อจำเป็น
ความแตกต่างที่สำคัญนี้เองที่ทำให้ EREV แตกต่างจากระบบ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) อย่างชัดเจน โดย PHEV นั้นเครื่องยนต์สามารถส่งกำลังไปยังล้อได้โดยตรง หรือทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในโหมด Parallel แต่สำหรับ EREV เครื่องยนต์มีบทบาทเพียงแค่การผลิตไฟฟ้าเท่านั้น
ทำไม EREV จึงเป็นคำตอบของ “Range Anxiety” ในยุคปัจจุบัน?
หากคุณเคยประสบปัญหา “Range Anxiety” หรือความกังวลว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งได้ไกลแค่ไหนก่อนจะหมดพลังงาน EREV คือคำตอบที่ลงตัวที่สุด ด้วยความสามารถในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเหมือนรถยนต์ทั่วไป ควบคู่ไปกับการชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งภายนอก ทำให้ผู้ขับขี่มีความยืดหยุ่นในการเดินทางสูง ไม่ต้องพึ่งพาสถานีชาร์จเพียงอย่างเดียว
ลองจินตนาการถึงการเดินทางข้ามจังหวัดอันยาวไกล คุณสามารถเติมน้ำมันได้อย่างสะดวกสบายทุกปั๊ม เมื่อถึงที่หมายก็สามารถชาร์จไฟฟ้าทิ้งไว้ได้เช่นกัน บางรุ่น EREV เคลมระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้สูงถึง 286 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อรวมกับการทำงานของเครื่องยนต์ที่คอยปั่นไฟให้แบตเตอรี่ สามารถวิ่งได้ไกลรวมกว่า 1,400 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันและชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นระยะทางที่เพียงพอต่อการใช้งานในทุกรูปแบบการเดินทาง
ตัวอย่างรถยนต์ EREV ที่น่าจับตามองในตลาดไทยปี 2568
ตลาดไทยกำลังจะได้ยลโฉมรถยนต์ EREV ที่น่าสนใจหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป:
Deepal S05 EREV: ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและสมรรถนะที่คาดว่าจะเป็นจุดเด่น ทำให้ Deepal S05 EREV เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามอง
Avatr 07 EREV: พัฒนาโดย Changan, Huawei และ CATL ทำให้ Avatr 07 EREV โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลัง
Changan Hunter EREV: สำหรับตลาดรถกระบะ หรือ Pickup Truck นั้น Changan Hunter EREV ถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญ ที่ผสมผสานการใช้งานแบบรถกระบะเข้ากับเทคโนโลยี EREV ได้อย่างลงตัว
Avatr 12 EREV: หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการจับตามองจากดีไซน์ที่ล้ำสมัย และประสิทธิภาพการขับขี่
Mazda EZ-6 EREV: การกลับมาของ Mazda ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี EREV
Li L6, L7, L8, L9: แบรนด์ Li Auto ได้สร้างชื่อเสียงอย่างมากในตลาดจีนด้วยรถยนต์ EREV ที่เน้นความหรูหราและเทคโนโลยีครอบครัว
NETA L EREV: NETA ที่ประสบความสำเร็จในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อาจขยายไลน์ผลิตภัณฑ์มาสู่ EREV
Leapmotor C10 EREV: Leapmotor กำลังเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามองในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ทำไม E-REV ถึงเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง?
ประสบการณ์การขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100%: EREV ให้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ล้วน (BEV) การออกตัวที่นุ่มนวล แรงบิดที่ตอบสนองทันที เสียงที่เงียบสงบ และการสั่นสะเทือนที่น้อยกว่า คือสิ่งที่ทำให้การขับขี่ EREV เป็นที่พึงพอใจ
อิสระจากการพึ่งพาสถานีชาร์จ: ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ EREV คือการที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางและจำนวนสถานีชาร์จ เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้า ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องง่ายและไร้กังวล
ประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดมลพิษ: EREV ถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ส่งผลให้มีการปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไปอย่างชัดเจน การใช้พลังงานไฟฟ้าให้เต็มที่ก่อนที่จะพึ่งพาเครื่องยนต์สันดาป ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ข้อดีที่ชัดเจนของ E-REV / REEV
ขจัดปัญหา Range Anxiety: การมีเครื่องยนต์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าทดแทนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ทำให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในทุกการเดินทาง
สัมผัสการขับขี่สไตล์ EV: ด้วยการขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ และอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม
ลดมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม: การเน้นใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักในการขับขี่ ช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม
ใครคือกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับ EREV?
ผู้ที่ต้องการประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า แต่กังวลเรื่องระยะทาง: EREV ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ EV แต่ยังต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จ
ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง: EREV มอบความสะดวกสบายในการเติมเชื้อเพลิงและชาร์จไฟฟ้า ทำให้การวางแผนการเดินทางง่ายขึ้น
ผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน: การใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว
แนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2568: ความหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ปี 2568 คาดว่าจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการยานยนต์ไทย การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จากหลากหลายผู้ผลิตทั่วโลก ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงรถยนต์ไฮบริด (HEV), ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และแน่นอน รวมถึง รถยนต์ EREV (Extended-Range Electric Vehicle) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแบรนด์ต่างเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย แม้แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง BYD ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังคงนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเดินทางข้ามจังหวัดระยะไกล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จ
รถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาในปี 2568:
กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์และ SUV:
Audi RS5 Avant Quattro: รถแวกอนสมรรถนะสูงที่มาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid
BMW Neue Klasse: แพลตฟอร์มใหม่จาก BMW ที่จะมาปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้า
Honda 0 Series Saloon: รถยนต์ไฟฟ้าจาก Honda ที่เน้นความปราดเปรียวและเทคโนโลยี
Jaguar EV GT: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Jaguar สู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า
Lexus LFR: ซูเปอร์คาร์ไฮบริดที่จะมาสานต่อตำนาน LFA
Mercedes AMG 4dr EV: รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก Mercedes-Benz
Porsche 718 Boxster EV: รถสปอร์ตระดับตำนานที่เตรียมก้าวสู่โลกยานยนต์ไฟฟ้า
Toyota FJ Cruiser (หรือชื่อใหม่): รถออฟโรดดีไซน์เหนือกาลเวลาที่หลายคนรอคอย
GWM Tank 700 Hi4-T: SUV ออฟโรด Plug-in Hybrid สุดแกร่ง
GAC M8 PHEV: MPV Plug-in Hybrid ที่หรูหราและกว้างขวาง
กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) และ EREV:
Deepal S05 BEV / EREV: รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่น่าสนใจ
Avatr 12: ซีดานไฟฟ้าพรีเมียม
Avatr 07 BEV / EREV: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่น่าจับตามอง
Zeekr 7X: SUV ไฟฟ้าคู่แข่ง Tesla Model Y
Zeekr Mix: มินิแวนไฟฟ้าสุดล้ำ
MG IM 6: ซีดานไฟฟ้าที่เคยเผยโฉมในไทย
MG ES5 EV: ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าจาก MG
BYD Seal DM-i: PHEV จาก BYD ที่น่าจับตา
BYD Shark 6: กระบะ Plug-in Hybrid ดีไซน์ดุดัน
BYD Atto 2: รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
BYD Atto 3 2025: รุ่นปรับโฉมใหม่ของ Atto 3
Denza N7: ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าจากแบรนด์ Denza
Aion UT: แฮทช์แบ็กไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด
Geely Galaxy E8: ซีดานไฟฟ้าจาก Geely
Changan Hunter EREV: กระบะ EREV คันแรกของโลก
Hyptec HL: SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่บนแพลตฟอร์ม 800V
GMW WEY 80 PHEV: MPV Plug-in Hybrid ขนาดใหญ่
GWM Tank 300 Diesel: รถน้ำมันสำหรับสายออฟโรด
กลุ่มรถยนต์หรูและสมรรถนะสูง:
Ferrari EV: รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก Ferrari ที่คาดว่าจะเป็น SUV Coupe
Toyota Century Coupé Concept: ต้นแบบ Hyper-Luxury ที่จะมาท้าชน Rolls-Royce
BMW M2 CS: รถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่หลายคนรอคอย
BMW M5 Touring: รถสปอร์ตแวกอน Plug-in Hybrid
New Tesla Model Y Performance: รุ่นสมรรถนะสูงของ Model Y
BMW Neue Klasse: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ BMW สู่ยุค EV
BMW Group ประเทศไทย: ประกาศกลยุทธ์ปี 2568 พร้อมเปิดตัว 9 รุ่นใหม่ และยกระดับบริการทางการเงิน
BMW Group ประเทศไทย: ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดพรีเมียม
BMW Group ประเทศไทย ประกาศศักยภาพด้วยการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดพรีเมียมมาอย่างต่อเนื่อง 5 ปีซ้อนในปี 2567 โดยส่งมอบรถยนต์รวมกว่า 13,659 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 45% สำหรับปี 2568 นี้ BMW Group เตรียมเขย่าตลาดด้วยการเปิดตัวรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ใหม่ถึง 9 รุ่น จากทั้งสามแบรนด์หลัก ได้แก่ BMW, MINI และ BMW Motorrad พร้อมยกระดับบริการทางการเงินด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและ AI เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและประสิทธิภาพทางธุรกิจ
การกลับมาของ MINI Countryman: โรงงาน BMW Group Manufacturing Thailand จังหวัดระยอง จะกลับมาประกอบ MINI Countryman ในประเทศอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของโรงงานแห่งนี้ที่สามารถผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ได้ครบทั้ง 3 แบรนด์
ความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้า: ในปี 2567 BMW มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดพรีเมียมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 13.5% เป็น 22.6% และ MINI ก็มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 44%
นวัตกรรมทางการเงิน: BMW Financial Services ประเทศไทย เน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาเสริมประสบการณ์ลูกค้า โดยครึ่งหนึ่งของลูกค้าใหม่เลือกใช้บริการทางการเงินของบริษัท และ 1 ใน 3 เลือกจัดการข้อตกลงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
รถ Coupe 2 ประตู มือสอง: ทางเลือกสุดคลาสสิกสำหรับปี 2568
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์ที่โดดเด่นและสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ รถ Coupe 2 ประตู มือสอง ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในปี 2568 นี้ one2car ได้รวบรวมรุ่นคลาสสิกดีไซน์อมตะ ที่ยังคงความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมมาแนะนำ:
Mercedes-Benz C-Class Coupé: โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมนสง่างาม ภายในทันสมัย ออปชันจัดเต็ม
BMW 4 Series Coupé: สมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์สปอร์ต ดุดัน
Audi TT: ขับสนุก ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ความแรงที่เข้าถึงได้

