เมอร์เซเดส-เบนซ์ สาดแสงแห่งอนาคต “Own Your Star” สู่ Motor Expo 2024: เปิดประสบการณ์ยนตรกรรมสุดล้ำ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
ในโลกที่เทคโนโลยียานยนต์ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และความคาดหวังของผู้บริโภคสูงขึ้นทุกขณะ การจะรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์หรูจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ในฐานะแบรนด์ที่ยืนหยัดเคียงข้างผู้บริโภคชาวไทยมายาวนาน ได้ประกาศศักดาอีกครั้งในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 หรือ Motor Expo 2024 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ซึ่งไม่เพียงแต่จะนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต แต่ยังมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้าที่เปรียบเสมือน “ดวงดาว” แห่งแบรนด์
จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการยานยนต์ ผมมองว่ากลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง พวกเขาไม่ได้เพียงแค่นำเสนอรถยนต์ แต่กำลังสร้าง “ประสบการณ์” ที่จะเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับแบรนด์ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเชิญชวนให้ลูกค้า “เป็นเจ้าของดวงดาว” ผ่านการตั้งชื่อดาวบนท้องฟ้า เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหรา การเฉลิมฉลองความสำเร็จ และความฝันที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยกระดับเหนือกว่าการซื้อขายรถยนต์แบบดั้งเดิม
แก่นแท้ของ “Own Your Star”: การมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่ารถยนต์
คำว่า “Own Your Star” ไม่ใช่เพียงแค่สโลแกนทางการตลาด แต่คือหัวใจสำคัญที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องการสื่อสาร พวกเขาเปรียบเปรอยนตรกรรมแต่ละคันเสมือนดวงดาวที่รอให้คุณครอบครอง และเมื่อคุณเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ใช่แค่คุณจะได้ครอบครองยานพาหนะที่คุณใฝ่ฝัน แต่ยังได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ “ดวงดาว” บนท้องฟ้า พร้อมใบประกาศนียบัตรและพิกัดดาว เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษสำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกที่จองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ภายในงาน Motor Expo 2024 นี้
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เน้นย้ำถึงความหมายที่ลึกซึ้งของสัญลักษณ์ดาวสามแฉก ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมา และความมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์ที่ครอบคลุมทุกมิติ การมอบดวงดาวจริงบนท้องฟ้า เป็นการขยายความหมายของ “ดาว” ให้กว้างไกลออกไป สู่ประสบการณ์ที่ยั่งยืน และเชื่อมโยงกับความสำเร็จส่วนบุคคลของลูกค้าแต่ละราย
เปิดมิติใหม่แห่งการสัมผัสยนตรกรรม: 7 ไฮไลท์เด่น และทัพรถกว่า 20 รุ่น
สำหรับ Motor Expo 2024 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ขนทัพยนตรกรรมมาจัดแสดงอย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 7 รุ่นไฮไลท์ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมงาน และสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางอนาคตของแบรนด์:
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: การเปิดตัว G-Class เจเนอเรชันใหม่ที่มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% ถือเป็นการปฏิวัติวงการรถยนต์ออฟโรดระดับตำนาน G-Class ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะ “King of Off-Road” มานานกว่า 45 ปี และการผสานเทคโนโลยี EQ Technology เข้ามา ทำให้ G 580 ไม่เพียงแต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะอันดุดัน แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 587 แรงม้า แรงบิดมหาศาลถึง 1,164 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที และพิสัยการขับขี่ 473 กิโลเมตร (WLTP) รุ่น “STANDARD” ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท และรุ่น “EDITION ONE” จำนวนจำกัด เพียง 6 คัน ราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท คือการแสดงศักยภาพไร้ขีดจำกัดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในยุครถยนต์ไฟฟ้า
Mercedes-Benz G 450 d: สำหรับผู้ที่ยังคงชื่นชอบเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ดีเซลอันทรงพลัง G 450 d ยังคงสืบทอดจิตวิญญาณของ G-Class ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล OM 656M ขนาด 2.9 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับระบบ ISG2 ให้กำลังรวม 367 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที เป็นการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่ง ดุดัน และประสิทธิภาพที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: นี่คือภาพสะท้อนแห่งสุดยอดยนตรกรรม SUV ไฟฟ้าแห่งยุคสมัย Mercedes-Maybach EQS 680 SUV คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach ที่มอบทั้งความหรูหราขั้นสูงสุด ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า PSM สองตัว ให้กำลังรวม 658 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที และพิสัยการขับขี่ 615 กิโลเมตร (WLTP) ด้วยแบตเตอรี่ 118.0 kWh เป็นนิยามใหม่ของความสง่างามและความเป็นเลิศบนถนน ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: การกลับมาของ S-Class ในรูปลักษณ์ Maybach ผสานความเป็นเลิศของ Plug-in Hybrid ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นประเทศแรก และเป็นประเทศแรกที่ขึ้นไลน์ผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production สะท้อนความใส่ใจในรายละเอียดและมาตรฐานระดับโลก S 580 e Premium มาพร้อมความสง่างามไร้ที่ติ ดีไซน์ภายนอกและภายในที่เหนือระดับ เทคโนโลยีที่มอบประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งกว่า เป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์หรู ราคาเริ่มต้น 11.3 ล้านบาท
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive: E-Class คือไอคอนแห่งความสง่างามและความเป็นเลิศที่ผสานกันอย่างลงตัว การกลับมาของโลโก้ “ดาวลอย” (MB logo on bonnet) บนฝากระโปรงหน้า คือการส่งสัญญาณถึงความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ การขับเคลื่อนด้วย Plug-in HYBRID เจเนอเรชันที่ 4 ที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ 25.4 kWh ให้ระยะทางวิ่งไฟฟ้ามากกว่า 100 กิโลเมตร (WLTP) และกำลังรวม 313 แรงม้า เป็นการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ราคา 3.65 ล้านบาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: สำหรับผู้ที่มองหายานพาหนะอเนกประสงค์ที่ผสมผสานความสะดวกสบายหรูหราแบบเฟิร์สคลาส V 300 d Exclusive ในตระกูล V-Class นี้ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการตกแต่งภายในที่พิถีพิถัน พื้นที่กว้างขวาง และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 237 แรงม้า พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC มอบสมรรถนะและการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับครอบครัวและธุรกิจ ราคา 5.82 ล้านบาท
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Pro: Vito 119 CDI Tourer Pro คือรถแวนพรีเมียม 11 ที่นั่ง ที่สมบูรณ์แบบทั้งฟังก์ชันการใช้งานและความหรูหราในสไตล์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มอบความกว้างขวางและเทคโนโลยีระดับเฟิร์สคลาส เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งการใช้งานในครอบครัวและการเดินทางเชิงธุรกิจ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 190 แรงม้า และเกียร์ 9G-TRONIC ราคา 3.1 ล้านบาท
นอกเหนือจาก 7 รุ่นไฮไลท์นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดแสดงยนตรกรรมอีกกว่า 20 รุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตอบสนองทุกความต้องการ และทุกรุ่นมาพร้อมราคาและข้อเสนอเดียวกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะซื้อภายในงานหรือที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
นวัตกรรมดิจิทัลที่ผสานเข้ากับการขับขี่
ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม ยานยนต์ก็เช่นกัน บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ใน Motor Expo 2024 เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับแอปพลิเคชัน Mercedes-Benz ที่สามารถใช้ควบคุมรถยนต์ที่จัดแสดงได้จากระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการรถ หรือการค้นหาตำแหน่งรถยนต์ บริการเสริม Digital Extras บนแอปฯ นี้ พร้อมใช้งานกับรถยนต์ตั้งแต่แรกซื้อ และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 36 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์และอุปกรณ์ที่เลือก
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า: “Worry-Free Package”
เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า เมอร์เซเดส-เบนซ์มอบข้อเสนอ “Worry-Free Package” สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งประกอบด้วย:
เงินชำระส่วนแรก 0% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เมื่อทำสัญญา MyStar
รับฟรี ค่าบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีที่กำหนด
รับฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง
รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือไม่เกิน 250,000 กิโลเมตร
ข้อเสนอเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการลดข้อกังวล และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า
สินค้าคอลเลคชั่นสุดพิเศษ และโปรโมชั่นสำหรับนักช้อป
นอกเหนือจากยนตรกรรมแล้ว บูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังนำเสนอสินค้า Mercedes-Benz Collection และสินค้าประดับยนต์ที่มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องแต่งกาย สินค้าสำหรับเด็ก ไปจนถึงอุปกรณ์กีฬา พร้อมข้อเสนอพิเศษ:
ซื้อสินค้าประดับยนต์หรือคอลเลคชั่น 2 ชิ้น ยอดตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป (ต่อใบเสร็จ) รับฟรีอีก 1 ชิ้น (ชิ้นที่มูลค่าต่ำที่สุด)
ลูกค้าที่มียอดซื้อสูงสุดในช่วงวันหยุดพิเศษ จะได้รับของขวัญสุดพิเศษ กระเป๋าเมอร์เซเดส-เบนซ์ มูลค่า 12,250 บาท
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes
สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes ที่ชำระค่าจองรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ 50,000 บาท/เซลส์สลิป ภายในงาน Motor Expo 2024 จะได้รับสิทธิ์แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% เมื่อใช้คะแนนสะสมเท่ากับยอดจอง พร้อมด้วยบัตรกำนัลเซ็นทรัล และคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด
การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดรถยนต์หรู: บทวิเคราะห์จากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ
การปรากฏตัวของเมอร์เซเดส-เบนซ์ใน Motor Expo 2024 เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์หรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยืนยันตำแหน่ง “เบอร์ 1 รถยนต์หรู 3 ปีซ้อน” ของ BMW การวิเคราะห์ของผม ชี้ให้เห็นว่า BMW ประสบความสำเร็จจากการเน้นย้ำเรื่องเทคโนโลยีเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค และการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม เมอร์เซเดส-เบนซ์มีจุดแข็งที่แตกต่างออกไป ในขณะที่ BMW เน้นสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เมอร์เซเดส-เบนซ์มักจะมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความรู้สึกเป็นเจ้าของที่เหนือระดับ การนำเสนอคอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ในปีนี้ เป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ดังกล่าว และเป็นการท้าทาย BMW ด้วยการสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับลูกค้า มากกว่าการแข่งขันกันที่ตัวเลขยอดขายเพียงอย่างเดียว
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และทั้งสองแบรนด์ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์นี้ การเปิดตัว G 580 with EQ Technology และ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าพวกเขามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเช่นกัน
บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งยานยนต์หรู
Motor Expo 2024 นี้ ไม่ใช่เพียงแค่เวทีการจัดแสดงรถยนต์ แต่คือการประกาศวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์จากการขายผลิตภัณฑ์ มาสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า การนำเสนอรถยนต์ที่หลากหลาย การผสานเทคโนโลยีดิจิทัล และข้อเสนอสุดพิเศษ ล้วนเป็นการยืนยันว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเป็นแบรนด์ที่น่าจับตามอง และเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์หรูในประเทศไทย
สำหรับผู้ที่หลงใหลในยนตรกรรมระดับพรีเมียม และมองหาสิ่งที่เหนือกว่าแค่รถยนต์ ขอเชิญชวนทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์ “Own Your Star” ด้วยตนเอง ที่บูธ A02 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 นี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวแห่งความสำเร็จและความฝันอันเป็นนิรันดร์ บนผืนฟ้าแห่ง Star Certificate ของคุณ.

