เมร์เซเดส-เบนซ์ สาดส่อง “Own Your Star” บนเวที Motor Expo 2024: ประสบการณ์ยานยนต์เหนือระดับพร้อมดาวบนฟากฟ้า
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีในวงการยานยนต์มาเกือบหนึ่งทศวรรษ ผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมมากมายที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่สิ่งที่ยังคงยืนหยัดและสร้างความตื่นเต้นอยู่เสมอคือการปรากฏตัวของแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Mercedes-Benz ในงานมหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีอย่าง Motor Expo สำหรับปี 2024 นี้ เมร์เซเดส–เบนซ์ ประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะนำเสนอทัพยนตรกรรมที่น่าจับตา แต่ยังมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สุดพิเศษ “Own Your Star” ที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การเป็นเจ้าของดวงดาวอย่างแท้จริง
Motor Expo 2024: สมรภูมิแห่งยนตรกรรมหรู และความพิเศษจากเมร์เซเดส-เบนซ์
ผมเชื่อว่าหลายท่านที่ติดตามข่าวสารในวงการยานยนต์คงจะทราบดีว่างาน Motor Expo คือเวทีสำคัญที่แบรนด์รถยนต์ชั้นนำทั่วโลกจะนำเสนอเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษที่ดึงดูดใจผู้บริโภค ในปีนี้ บูธหมายเลข A02 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี จะกลายเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะ ความหรูหรา และนวัตกรรมจากเมร์เซเดส-เบนซ์
“Own Your Star”: คอนเซ็ปต์ที่ผสานความฝันกับความเป็นจริง
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้อธิบายถึงหัวใจสำคัญของแคมเปญนี้ได้อย่างน่าประทับใจ “นอกจากสัญลักษณ์ดาวสามแฉกที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ครอบคลุมทุกมิติแล้ว เราเปรียบยนตรกรรมแต่ละรุ่นของเมร์เซเดส-เบนซ์ เสมือนดวงดาวที่รอให้คุณมาครอบครอง” คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” จึงไม่ใช่เพียงการเป็นเจ้าของรถยนต์หรู แต่เป็นการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ด้วยการมอบ “ดวงดาวบนท้องฟ้า” ที่สามารถตั้งชื่อได้เอง พร้อมใบประกาศนียบัตร Star Certificate ให้แก่ลูกค้า 100 ท่านแรกที่จองรถยนต์เมร์เซเดส-เบนซ์ภายในงาน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ฉีกกรอบการตลาดแบบเดิมๆ และสร้างความผูกพันทางอารมณ์ให้กับลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม
7 รุ่นไฮไลท์: การเปิดมิติใหม่แห่งยานยนต์
สำหรับงาน Motor Expo 2024 เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้จัดเต็มด้วยยนตรกรรมที่น่าจับตาถึง 7 รุ่นไฮไลท์ ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายและความล้ำหน้าของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก และยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: การปรากฏตัวของ “King of Off-Road” ในเวอร์ชันพลังงานไฟฟ้า 100% ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของ G-Class ที่ผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่งเข้ากับเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 587 แรงม้า แรงบิดมหาศาลถึง 1,164 นิวตันเมตร สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และยังคงความสามารถในการวิ่งได้ถึง 473 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) นี่คือการยืนยันว่า G-Class ไม่ได้มีไว้เพื่อพิชิตทุกเส้นทางเท่านั้น แต่ยังสามารถทำได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย ราคเริ่มต้นที่ 9.5 ล้านบาท สำหรับรุ่น Standard และ 12.2 ล้านบาท สำหรับรุ่น Edition One ที่ผลิตจำนวนจำกัด
Mercedes-Benz G 450 d: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบขุมพลังดีเซลอันทรงพลัง G 450 d มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM 656M ความจุ 2,989 ซีซี ผสานระบบ ISG2 ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ยนตรกรรมคันนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลให้มีสมรรถนะสูงและยังคงความประหยัด นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV ขนาดใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: นี่คือที่สุดแห่งยนตรกรรม SUV ไฟฟ้าที่ยกระดับประสบการณ์การเดินทางไปอีกขั้น ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า BEV รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach คันนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า PSM สองตัว ให้กำลังสูงสุด 658 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที ด้วยแบตเตอรี่ 118.0 kWh ให้ระยะทางวิ่ง 615 กิโลเมตร (WLTP) การผสมผสานความหรูหราเหนือระดับของ Maybach เข้ากับเทคโนโลยี EV ล่าสุด ทำให้ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV เป็นนิยามใหม่ของความสุดยอดในกลุ่ม Top-End Luxury SUV ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: ยนตรกรรมซีดานระดับสูงสุดที่สะท้อนถึงความสง่างามแบบ Maybach พร้อมการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยกับการผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production ด้วยระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่ผสานสมรรถนะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว การกลับมาพร้อมตัวถังสีทูโทนใหม่ “High-tech Silver/Selenite Grey” ยิ่งเพิ่มความพิเศษในราคา 11.3 ล้านบาท
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive: การกลับมาของ E-Class ในรุ่น Exclusive Line พร้อมโลโก้ “ดาวลอย” บนฝากระโปรงหน้า อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราคลาสสิก ขุมพลัง Plug-in HYBRID เจเนอเรชันที่ 4 พร้อมแบตเตอรี่ 25.4 kWh ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้ามากกว่า 100 กิโลเมตร (WLTP) กำลังรวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.4 วินาที นี่คือตัวแทนของความสมบูรณ์แบบที่ผสานความล้ำสมัยเข้ากับดีไซน์เหนือกาลเวลา ในราคา 3.65 ล้านบาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: รถแวน 6 ที่นั่ง ที่ได้รับการยกระดับให้เป็นมากกว่ารถครอบครัว แต่คือการเดินทางที่หรูหราดุจเฟิร์สคลาส ด้วยการตกแต่งภายในที่ประณีต พื้นที่กว้างขวาง และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 1,950 ซีซี ให้กำลัง 237 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ ในราคา 5.82 ล้านบาท
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Pro: รถแวนอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ที่ผสมผสานการใช้งานที่สมบูรณ์แบบเข้ากับความหรูหราตามแบบฉบับเมร์เซเดส-เบนซ์ เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวและธุรกิจ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1,950 ซีซี ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.5 วินาที พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC มอบการขับขี่ที่ราบรื่น ในราคา 3.1 ล้านบาท
เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อคุณกับรถยนต์
ภายในบูธ เมร์เซเดส-เบนซ์ ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานแอปพลิเคชัน Mercedes-Benz ที่สามารถสั่งการรถยนต์ได้จากระยะไกล เช่น การควบคุมรถ การค้นหาตำแหน่ง ซึ่งบริการ Digital Extras เหล่านี้ มีให้พร้อมกับรถยนต์ตั้งแต่แรกซื้อ และสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 36 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์และอุปกรณ์ที่เลือก
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้า 100%
สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 จะได้รับข้อเสนอ “Worry-Free Package” ซึ่งรวมถึง:
เงินชำระส่วนแรก 0% สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรุ่น เมื่อทำสัญญา MyStar
ฟรีค่าบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีที่กำหนดโดย SHARGE
ฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง
รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือไม่เกิน 250,000 กิโลเมตร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เมร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เมร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด
สินค้าคอลเลคชั่นสุดพิเศษ และข้อเสนอสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต
นอกจากทัพยนตรกรรมแล้ว บูธเมร์เซเดส-เบนซ์ ยังมีสินค้า Mercedes-Benz Collection และสินค้าประดับยนต์ที่หลากหลาย พร้อมข้อเสนอพิเศษ เช่น ซื้อสินค้า 2 ชิ้น รับฟรี 1 ชิ้น หรือลุ้นรับของขวัญสุดพิเศษสำหรับผู้มียอดซื้อสูงสุดในแต่ละวัน รวมถึงข้อเสนอสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes ที่สามารถรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50%
จับตาดูตลาดรถหรู: ภาพรวมและแนวโน้ม
ในมุมมองของผม การเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ๆ ของเมร์เซเดส-เบนซ์ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ตลาดรถหรูในประเทศไทยยังคงมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งสำคัญอย่าง BMW ได้ประกาศความเป็นเบอร์ 1 รถยนต์หรู 3 ปีซ้อน สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี สมรรถนะ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ยิ่งไปกว่านั้น กระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้แบรนด์รถยนต์หรูต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมองหาสมรรถนะที่ยั่งยืน
บทสรุป: ประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การเป็นเจ้าของรถ
งาน Motor Expo 2024 นี้ จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่สนใจยนตรกรรมระดับพรีเมียมที่จะได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากเมร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่การเป็นเจ้าของดวงดาวบนท้องฟ้า การได้ทดลองขับยนตรกรรมที่ล้ำสมัย ไปจนถึงข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ การเข้าร่วมงานที่บูธ A02 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567 นี้ ไม่ใช่แค่การไปชมรถยนต์ แต่คือการไปสัมผัสอนาคตแห่งการขับเคลื่อน และประสบการณ์ที่ทำให้คุณได้ “Own Your Star” อย่างแท้จริง
หากคุณกำลังมองหายานยนต์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จ ไลฟ์สไตล์ และวิสัยทัศน์แห่งอนาคต นี่คือเวลาที่คุณจะได้พบกับสิ่งนั้น และบางที คุณอาจจะได้เป็นเจ้าของดวงดาวที่ส่องประกายอยู่บนท้องฟ้าจริงๆ ก็เป็นได้ อย่าพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้!

