BMW Xpo 2024: สัมผัสประสบการณ์ “Joy” แห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียม ที่เข้าถึงง่ายกว่าที่เคย
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของแบรนด์รถยนต์หรูหลายต่อหลายแบรนด์ สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นอย่างชัดเจนคือ ความพยายามของค่ายรถยนต์ระดับพรีเมียมในการปรับตัวเข้าหาลูกค้าให้มากขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่สภาพเศรษฐกิจและสังคมมีความผันผวน การจัดงานอีเวนต์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงจึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ และเมื่อพูดถึงแบรนด์ที่ทำเรื่องนี้ได้ดี ผมต้องยกให้ BMW กับมหกรรม BMW Xpo ที่กลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในปีนี้
BMW Xpo: พลังแห่งทางเลือกที่ขยายขอบเขตสู่ผู้บริโภค
จากประสบการณ์ของผม BMW Xpo ไม่ใช่เพียงแค่งานแสดงรถยนต์ประจำปี แต่คือการฉลอง “Joy” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ BMW ที่ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่อันน่าตื่นเต้น ควบคู่ไปกับการมอบทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า การที่ BMW Xpo ในปีนี้ขยายพื้นที่การจัดงานไปยังศูนย์การค้าชั้นนำหลายแห่งทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ BMW Group Thailand ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าเดินทางมาหา
ปีนี้ BMW Xpo 2024 จึงมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่เน้น “พลังแห่งทางเลือก” ที่จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับยนตรกรรม BMW ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกความต้องการ และทุกงบประมาณ ภายใต้การจัดงานที่ครอบคลุมกว่าเดิมถึง 4 แห่ง ตลอดระยะเวลา 4 สัปดาห์ ซึ่งนับเป็นการยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อรถยนต์ BMW ให้เข้าถึงง่าย สะดวกสบาย และน่าประทับใจยิ่งขึ้น
“BMW Xpo” ในยุค New Normal: ปรับตัวเพื่อก้าวไปข้างหน้า
ผมยังจำได้ดีว่าสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย BMW Group Thailand เองก็เผชิญกับความท้าทาย แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือการที่แบรนด์ทั้ง BMW และ MINI สามารถรักษาผลการดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง และทำได้ดีกว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศ ทั้งในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมและตลาดโดยรวม
อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน BMW Group Thailand ได้กล่าวไว้ว่า “โลกของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้บริษัทฯ ฝ่าฟันอุปสรรคนี้ต่อไปได้” ตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ BMW และ MINI ที่แม้จะลดลง แต่ก็ยังดีกว่าภาพรวมตลาด สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างชาญฉลาด
“BMW Xpo” กับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์มือสอง
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ยอดขายรถยนต์ BMW และ MINI ในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมที่ขยายตัวขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่ยังคงมีอยู่ และมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการเฉพาะตัว
ยิ่งไปกว่านั้น BMW ยังเดินหน้าผลักดันตลาดยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าจากทั้งแบรนด์ BMW และ MINI ถึง 4 รุ่น พร้อมกับการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า ChargeNow ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้ เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า BMW กำลังมุ่งมั่นสู่อนาคตแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง
จากข้อมูลที่พบว่าเจ้าของรถ BMW และ MINI จำนวนมากเลือกติดตั้งตู้ชาร์จ i Wallbox ที่บ้านและสำนักงาน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และความสะดวกสบายที่ได้รับ ตัวเลขกว่า 1,230 ตู้ที่ติดตั้งไปตั้งแต่ปี 2559 บ่งบอกถึงการเติบโตที่น่าสนใจของ BMW Plug in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
สำหรับตลาดรถยนต์มือสองของ BMW ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยยอดขายที่สูงขึ้น 15% แสดงให้เห็นว่าแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย BMW Premium Selection ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด เป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์คุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้
BMW Xpo 2024: หลากหลายรุ่น หลากหลายขุมพลัง ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ภายใต้ธีม “BMW Xpo 2024 สานต่อ 11 ปีแห่งความ ‘JOY’” งานนี้ได้รวบรวมยนตรกรรม BMW ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่กลุ่ม Plug in Hybrid และ EV ไฟฟ้า 100% ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลที่เน้นประสิทธิภาพด้านความประหยัด และเครื่องยนต์เบนซินที่ให้สมรรถนะเร้าใจ ตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BMW ได้เน้นย้ำถึงการรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B10 สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ทุกรุ่น ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการรับประกันเครื่องยนต์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้พลังงานที่ยั่งยืน
ข้อเสนอสุดพิเศษจาก BMW Xpo 2024: จังหวะทองที่คุณไม่ควรพลาด
หัวใจสำคัญของ BMW Xpo คือข้อเสนอสุดพิเศษที่ทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ BMW ง่ายกว่าที่เคย ในปีนี้ BMW Xpo 2024 มาพร้อมกับข้อเสนอที่น่าสนใจ ดังนี้:
สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ BMW และมีกำหนดส่งมอบภายในวันที่ 30 กันยายน 2564:
BMW X1, Series-2, Series-3: รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
BMW Series-4, Series-5, X3, X4, X5, 6 Series Gran Turismo, Z4: รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท
BMW Series-7, X6, X7, Series-8, ทุกรุ่นในตระกูล BMW M และ BMW i: รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท
พิเศษ! จองรถยนต์รุ่นใดก็ได้ในงาน BMW Xpo 2024 รับฟรีโมเดลรถยนต์ BMW Miniature Cars
ข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษกับ BMW Financial Services ประเทศไทย (สำหรับผู้ที่จองและส่งมอบภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2564):
BMW X1 (รุ่น sDrive18i Iconic / sDrive18d xLine / sDrive20d M Sport): อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นเพียง 15,999 บาท
BMW 3 Series (รุ่น 320d M Sport / 330e M Sport): รับประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 2 ปี, รับประกันมูลค่ารถยนต์ในอนาคตสูงสุด 60%, ผ่อนรายเดือนเริ่มต้น 19,999 บาท
BMW Series-5 (รุ่น Plug-in Hybrid และ Diesel): รับประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 2 ปี, ขยายแพ็กเกจ BSI เป็น 6 ปี / 120,000 กิโลเมตร, ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 5 ปีเต็ม สำหรับ BMW 520d M Sport และ BMW 530e M Sport
Roller-Royce: สัญลักษณ์แห่งความหรูหราที่ไม่เป็นรองใคร
นอกเหนือจาก BMW แล้ว งานนี้ยังเป็นโอกาสพิเศษที่ได้สัมผัสกับยนตรกรรมสุดหรูระดับโลกอย่าง Rolls-Royce ซึ่งนำโดย Rolls-Royce Phantom ยนตรกรรมที่เปรียบเสมือน “King of Cars” ด้วยราคา 53.5 ล้านบาท สะท้อนถึงความประณีตในการผลิต เทคโนโลยีล้ำสมัย และการออกแบบที่ไร้ที่ติ
ตามมาด้วย Rolls-Royce Wraith รถสปอร์ต 2 ประตู ที่ผสมผสานความสง่างามเข้ากับสมรรถนะอันทรงพลัง และ Rolls-Royce Cullinan SUV ที่มอบอิสระและความหรูหราในการผจญภัยไปยังทุกเส้นทาง แม้แบรนด์เหล่านี้จะมีราคาที่สูงกว่า BMW อย่างเห็นได้ชัด แต่การได้สัมผัสความหรูหราขั้นสุดเช่นนี้ ก็เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง
BMW ทวงบัลลังก์ผู้นำตลาดรถหรู: กุญแจสู่ความสำเร็จที่เหนือกว่า
ผมได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ BMW กลับมาทวงตำแหน่งแชมป์ยอดขายรถยนต์หรูในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ Mercedes-Benz ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานถึง 19 ปี ปัจจัยเหล่านี้เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า (Superior Products): ในปี 2020 การที่ BMW มีรุ่น 3 Series ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด และเป็นรุ่นประกอบในประเทศ ทำให้สามารถตั้งราคาที่แข่งขันได้ดีขึ้นกว่ารุ่นนำเข้าถึง 400,000 บาท ประกอบกับ X1 ที่มีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 2 ล้านบาท และการทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สร้างความคึกคักให้กับตลาดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือการมีรถพร้อมส่งมอบ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องรอคอยนาน
ในทางตรงกันข้าม คู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz กลับประสบปัญหาเรื่องการจัดหารถใหม่มาทำตลาด โดยเฉพาะรุ่นขายดีอย่าง CLA และ GLA ที่ติดปัญหาการเปลี่ยนโฉมและการนำเข้า ทำให้เสียโอกาสในการทำตลาดไปอย่างน่าเสียดาย
การปรับตัวรับมือวิกฤต (Adapting to the Crisis): แม้ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อทุกแบรนด์ แต่ BMW สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ดีกว่า โดยเฉพาะการที่ไม่ได้พึ่งพิงยอดขายรถ Fleet จำนวนมากเหมือนคู่แข่งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการท่องเที่ยว
ประสบการณ์เหนือระดับ (Ultimate Joy Experience): BMW เข้าใจดีว่าในยุควิกฤต การตัดสินใจซื้อรถหรูไม่ได้มาจากความจำเป็น แต่มาจาก “สิทธิประโยชน์ด้านจิตใจ” โปรแกรม “BMW Ultimate Joy” ที่มอบสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ เช่น การเข้าสนามกอล์ฟระดับโลก การเข้าร่วมการแข่งขันมาราธอน หรือการอบรมขับรถในสนามแข่ง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้จากที่อื่น สิ่งเหล่านี้สร้างความผูกพันและความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
BMW Xpo 2024: โอกาสของคุณในการสัมผัสยนตรกรรมแห่งอนาคต
BMW Xpo 2024 ไม่ใช่แค่การแสดงรถยนต์ แต่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับนวัตกรรม เทคโนโลยี และประสบการณ์ “Joy” ที่ BMW ตั้งใจมอบให้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหายานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย เครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่เร้าใจ หรือรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน BMW Xpo คือคำตอบ
ผมขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจ ยนตรกรรมระดับพรีเมียม ที่มีทั้งความหรูหรา สมรรถนะ และประสบการณ์การขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ อย่าพลาดโอกาสที่จะมาสัมผัสกับ BMW Xpo 2024 ในแต่ละสาขาตลอด 4 สัปดาห์นี้ คุณอาจจะได้พบกับรถในฝันของคุณ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่ทำให้การเป็นเจ้าของ BMW ง่ายกว่าที่เคย
อย่ารอช้า! เข้าไปดูตารางงานและรายละเอียดเพิ่มเติมที่ BMW Thailand เพื่อวางแผนการเยี่ยมชมของคุณ แล้วมาสัมผัสประสบการณ์ “The Ultimate Driving Machine” ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม BMW ถึงยังคงเป็นแบรนด์ที่ครองใจนักขับทั่วโลกมาอย่างยาวนาน.

