11 สุดยอดรถยนต์สัญชาติอเมริกันที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์: เมื่อสมรรถนะชั้นยอดพบกับความหรูหราเหนือกาลเวลา
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์มานับไม่ถ้วน แต่มีไม่กี่ครั้งที่รถยนต์จากค่ายอเมริกันสามารถก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์ของรถยนต์หรูจากยุโรปได้อย่างสง่างาม สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์การผลิตรถยนต์ยาวนานที่สุดในโลก ได้สร้างสรรค์ยานยนต์ที่ทรงคุณค่าและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก 11 อันดับรถยนต์สัญชาติอเมริกันที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่สมรรถนะที่ดุดันเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงความสง่างามเหนือกาลเวลา รถแข่งที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไปจนถึงไอคอนของวัฒนธรรมป๊อป
Ford GT40 Gulf/Mirage Lightweight Racing Car (1968) – 11 ล้านเหรียญสหรัฐ
หากจะพูดถึงรถแข่งสัญชาติอเมริกันในตำนาน Ford GT40 คือชื่อที่ต้องถูกกล่าวถึงอย่างแน่นอน GT40 คันนี้ ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เฉียบคม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 อันทรงพลัง แต่ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ยุคแรกๆ ที่นำเทคโนโลยีวัสดุขั้นสูงอย่างคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการผลิต เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุดในสนามแข่ง การผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและชัยชนะในสนามแข่ง ทำให้ GT40 Gulf/Mirage Lightweight Racing Car กลายเป็นที่หมายปองของนักสะสมทั่วโลก และทำราคาสูงถึง 11 ล้านเหรียญสหรัฐในการประมูล
Duesenberg Model J Long Wheelbase Coupe (1931) – 10.34 ล้านเหรียญสหรัฐ
Duesenberg Model J คือนิยามของความหรูหราและความมั่งคั่งในยุคของมัน ด้วยเส้นสายการออกแบบที่สง่างามไม่แพ้รถยนต์หรูจากยุโรปในยุคนั้น พร้อมฐานล้อยาวพิเศษที่มอบความสะดวกสบายเหนือใคร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 8 สูบแถวเรียงขนาด 7,000 ซีซี ให้กำลัง 256 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 192 กม./ชม. ความงามอันเป็นอมตะและความแรงที่น่าเกรงขาม ทำให้ Duesenberg Model J Long Wheelbase Coupe เป็นที่รักของนักสะสม และมีราคาประมูลสูงถึง 10.34 ล้านเหรียญสหรัฐ
Shelby Daytona Cobra Coupe (1965) – 7.68 ล้านเหรียญสหรัฐ
Shelby Daytona Cobra Coupe ถือกำเนิดขึ้นเพื่อท้าชน Ferrari ในรายการแข่งขัน GT Road Racing โดยเฉพาะ และมันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รถคันนี้กวาดรางวัลมาแล้วมากมายในสนามแข่งระดับโลก ทั้ง Le Mans, Nürburgring, Daytona, Monza และ Sebring ส่งผลให้ Shelby ได้รับรางวัลผู้ผลิตยอดเยี่ยมในปี 1965 โดยเฉพาะรุ่นรหัสตัวถัง #CSX2602 ที่ลงแข่งขันจริง ได้ถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 7.68 ล้านเหรียญสหรัฐ
Ford GT40 Prototype (1964) – 7 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในฐานะรถต้นแบบของ Ford GT40 คันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน GT40 มาพร้อมโครงสร้างและตัวถังน้ำหนักเบา ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,700 ซีซี และเคยขึ้นโพเดียมอันดับ 3 ในการแข่งขัน Daytona Continental 2,000 km ปี 1965 ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะรถต้นแบบ ทำให้ Ford GT40 Prototype มีมูลค่าสูงถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ
Shelby Cobra 427 Super Snake (1966) – 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
Shelby Cobra 427 Super Snake เป็นรถที่ผลิตขึ้นตามความต้องการพิเศษของ Bill Cosby เพื่อนสนิทของ Carroll Shelby ที่ต้องการรถยนต์ที่ทำความเร็วเกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (321 กม./ชม.) และที่พิเศษยิ่งกว่าคือ รถคันนี้เคยถูก Carroll Shelby ใช้งานส่วนตัวอีกด้วย ด้วยความหายากและประวัติอันน่าสนใจ Shelby Cobra 427 Super Snake จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมอย่างมาก และถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
Batmobile 1 (1966) – 4.62 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อพูดถึงไอคอนทางวัฒนธรรมป๊อป Batmobile คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุด Batmobile หมายเลข 1 ที่ออกแบบในปี 1966 เพื่อใช้ในซีรีส์โทรทัศน์ Batman สร้างจากรถ Lincoln Futura ปี 1954 ที่มีมูลค่า 250,000 เหรียญสหรัฐ บวกกับค่าตกแต่งอีก 150,000 เหรียญสหรัฐ รวมเป็นการลงทุนที่มหาศาลในยุคนั้น และปัจจุบัน Batmobile คันนี้มีมูลค่าประมูลสูงถึง 4.62 ล้านเหรียญสหรัฐ
Duesenberg Model SJ Convertible Coupe (1935) – 4.51 ล้านเหรียญสหรัฐ
Duesenberg Model SJ Convertible Coupe คือรถเปิดประทุนสุดหรูที่สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบที่ประณีต เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมซูเปอร์ชาร์จ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 225 กม./ชม. ในยุคที่ความเร็ว 160 กม./ชม. ถือเป็นเรื่องยากลำบาก มันเปรียบเสมือน Bugatti Veyron แห่งยุค 1930 ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัด Duesenberg Model SJ Convertible Coupe จึงมีมูลค่าประมูลสูงถึง 4.51 ล้านเหรียญสหรัฐ
Duesenberg Model SJ Speedster “Mormon Meteor” (1935) – 4.45 ล้านเหรียญสหรัฐ
Duesenberg Model SJ Speedster “Mormon Meteor” เป็นรุ่นพิเศษที่ตกแต่งอย่างสปอร์ตที่สุดในยุคนั้น ด้วยตัวถังสีครีม โลโก้ขนาดใหญ่สีเงิน และท่อไอเสียสีเงินสะท้อนแสง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ที่ใช้ในเครื่องบิน สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 247.7 กม./ชม. ด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งและดีไซน์ที่โดดเด่น Duesenberg Model SJ Speedster “Mormon Meteor” มีราคาประมูลอยู่ที่ 4.45 ล้านเหรียญสหรัฐ
GM Futurliner (1939) – 4.32 ล้านเหรียญสหรัฐ
GM Futurliner คือรถบัสขนาดเล็กที่ General Motors สร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงในงาน New York World’s Fair ปี 1939 ออกแบบด้วยสไตล์ Art Deco สีแดงสด ถูกผลิตขึ้นเพียง 12 คัน และเหลือรอดมาถึงปัจจุบันเพียง 9 คัน ด้วยความหายากและประวัติศาสตร์อันยาวนาน GM Futurliner จึงมีราคาสูงถึง 4.32 ล้านเหรียญสหรัฐในการประมูล
Chevrolet Corvette L88 (1967) – 3.85 ล้านเหรียญสหรัฐ
Chevrolet Corvette L88 คือสัญลักษณ์ของรถสปอร์ตอเมริกันระดับตำนาน มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 7,700 ซีซี กำลังกว่า 500 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงมหาศาลในยุคนั้น Corvette L88 คันนี้เป็น Corvette ที่มีราคาขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ด้วยราคา 3.85 ล้านเหรียญสหรัฐ
Gurney Eagle Mk-1 (1966) – 3.74 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปิดท้ายด้วย Gurney Eagle Mk-1 รถสูตรหนึ่งสัญชาติอเมริกันในปี 1966 ที่ถือเป็นรถต้นแบบของรถสูตรหนึ่งยุคใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 วางกลาง ล้อเปิดโล่ง และเคยคว้าชัยใน Belgian Grand Prix ปี 1967 แม้ราคา 3.74 ล้านเหรียญสหรัฐอาจดูสูง แต่เมื่อเทียบกับรถสูตรหนึ่งคันอื่นๆ ที่เคยมีการประมูล Gurney Eagle Mk-1 ถือเป็นรถสูตรหนึ่งที่ราคาถูกที่สุดคันหนึ่งเลยทีเดียว
แม้ว่ารถยนต์อเมริกันเหล่านี้อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับรถยนต์หรูบางรุ่นจากยุโรป แต่พวกมันก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งความเป็นรถแข่งพันธุ์แท้ ความเป็นสปอร์ตคลาสสิก หรือแม้กระทั่งการเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้รถยนต์สัญชาติอเมริกันเหล่านี้ทรงคุณค่าและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก
หากคุณมีความชื่นชอบในรถยนต์สัญชาติอเมริกันคันใดเป็นพิเศษ หรือมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถยนต์เหล่านี้ สามารถแบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับเราได้นะครับ

