• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N3012038 เหล ยมท กทางแล วย งจะให โลกเห นใจ part2

admin79 by admin79
December 29, 2025
in Uncategorized
0
N3012038 เหล ยมท กทางแล วย งจะให โลกเห นใจ part2

สุดยอดรถสปอร์ตอเมริกันทรงพลัง: สถิติใหม่แห่งสมรรถนะและเทคโนโลยี (2025)

ในโลกยานยนต์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือด รถสปอร์ตอเมริกันได้ยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์ของพละกำลังดิบ ประสิทธิภาพเหนือชั้น และวิศวกรรมที่กล้าหาญมายาวนาน จากยุค Muscle Cars ที่ครองสนามแข่ง Drag Strip สู่ Hypercars สุดล้ำสมัยที่ท้าทายขีดจำกัดของฟิสิกส์ สหรัฐอเมริกาไม่เคยหยุดที่จะสร้างสรรค์ยานพาหนะที่ผสมผสานสมรรถนะสุดขั้วเข้ากับเอกลักษณ์อันโดดเด่นได้อย่างลงตัว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์อย่าง Shelby GT500, Dodge Challenger SRT Demon, และ Chevrolet Corvette ZR1 C8 ได้ผลักดันวิศวกรรมยานยนต์อเมริกันให้ก้าวไปสู่ระดับใหม่ พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ผลิตในประเทศสามารถแข่งขันกับสุดยอดรถซูเปอร์คาร์จากยุโรปได้อย่างสูสี ทั้งบนถนนทั่วไปและในสนามแข่ง

ยานยนต์เหล่านี้ไม่ได้มอบเพียงแค่ความเร็ว แต่เป็นการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สัมผัสได้ทุกประสาทสัมผัส ด้วยการผสานเครื่องยนต์ V8 ที่คำรามกึกก้อง ระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง และเทคโนโลยีช่วงล่างอันซับซ้อน เพื่อสร้างสรรค์รถสปอร์ตที่เร้าใจในทุกมิติ

การสำรวจ รถสปอร์ตอเมริกันทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา คือการได้เห็นการหลอมรวมมรดกทางประวัติศาสตร์ นวัตกรรม และม้ากำลังมหาศาล ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของชาติในการนิยามมาตรฐานสมรรถนะใหม่ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

2025 Ford Mustang GTD: Muscle Car อเมริกันพันธุ์แท้เพื่อสนามแข่งระดับสุดยอด

2025 Ford Mustang GTD คือจุดสูงสุดแห่งสมรรถนะของ Mustang ถูกออกแบบมาเพื่อก้าวข้ามทุกสิ่งที่เคยมีมา และครอบครองทั้งถนนและสนามแข่งอย่างแท้จริง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 5.2 ลิตร V8 Supercharged Predator อันทรงพลัง GTD สร้างกำลังได้ถึง 815 แรงม้า และแรงบิด 664 ปอนด์-ฟุต สามารถหมุนรอบได้สูงถึง 7,650 รอบต่อนาที

ด้วยอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.5 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 202 ไมล์ต่อชั่วโมง GTD ได้ตอกย้ำสถานะของมันในฐานะ Mustang รุ่นผลิตเชิงพาณิชย์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Ford มีเป้าหมายที่จะพิสูจน์ศักยภาพของ GTD ที่สนาม Nürburgring ประเทศเยอรมนี ซึ่งรถคันนี้สามารถทำเวลาต่อรอบได้ถึง 6:57.8 สร้างสถิติที่เหนือกว่าคู่แข่งที่โด่งดังอย่าง Porsche 911 GT3, Corvette C8 Z06 และ Viper ACR แสดงให้เห็นว่า Muscle Car อเมริกันสามารถแข่งขันกับ Supercar ยุโรปได้บนแผ่นดินของพวกเขาเอง

รถคันนี้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวด้วยระบบอากาศพลศาสตร์แบบแอคทีฟ ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์เต็มรูปแบบ และเบรกคาร์บอนเซรามิกที่รับประกันพลังการหยุดรถที่ยอดเยี่ยมภายใต้สภาวะสุดขั้ว

แม้ว่า GTD จะมีน้ำหนัก 4,386 ปอนด์ ซึ่งอาจดูมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่การควบคุมของรถนั้นมีความสง่างามอย่างน่าทึ่ง ด้วยรูปทรงช่วงล่างขั้นสูง ยาง Michelin Pilot Cup 2 ขนาดมหึมา (325 ด้านหน้า, 345 ด้านหลัง) และการกระจายน้ำหนักที่แม่นยำจากระบบ Transaxle ที่อยู่ด้านหลัง ทำให้รถยังคงเกาะถนนได้อย่างมั่นคงขณะเข้าโค้ง ช่วงเบรก และขณะเร่งความเร็ว

ระบบ Variable Traction Control ใหม่ช่วยให้สามารถปรับแต่ง หรือปิดระบบได้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้แม้จะใช้พละกำลังมหาศาล

เทคโนโลยีเพื่อสนามแข่งของ GTD ประกอบด้วยระบบช่วงล่าง Integral-link ด้านหลัง พร้อมสปริงที่ทำงานด้วยก้านกดและโช้คอัพ Multimatic ASV ระบบไฮดรอลิกสำหรับปรับการบีบอัดสปริงและระดับความสูงของรถ และระบบอากาศพลศาสตร์แบบแอคทีฟที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์บนเครื่อง

แพ็กเกจ Track Package ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ช่วยเพิ่มแรงกดด้วยแฟลบด้านหน้าแบบปรับได้ สปลิตเตอร์ที่ยาวขึ้น ช่องดักลมบนฝากระโปรง และปีกหลังแบบยืดหดได้ ตัวถังเกือบทั้งหมดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักพร้อมทั้งเพิ่มความแข็งแกร่ง พร้อมออปชัน Liquid Carbon ที่ช่วยประหยัดน้ำหนักได้อีก 30 ปอนด์

แม้จะมีสมรรถนะที่น่าทึ่ง แต่ภายในห้องโดยสารก็ยังเป็นจุดอ่อน แม้ว่าเบาะ Recaro จะให้การรองรับที่ดีเยี่ยม แต่ห้องโดยสารยังคงสะท้อนรูปแบบมาตรฐานของ Mustang พร้อมวัสดุระดับพรีเมียมที่จำกัด และความรู้สึกที่ยังไม่สมกับราคา

ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 325,000 ดอลลาร์สหรัฐ GTD ถูกผลิตในจำนวนจำกัด โดย Ford ได้คัดเลือกผู้ซื้อสำหรับรุ่นปี 2025 และ 2026 แล้ว ด้วยสถิติสนาม Nürburgring ที่ทำลายสถิติ เทคโนโลยีสนามแข่งขั้นสูง และ Muscle Car อเมริกันที่ไร้เทียมทาน Mustang GTD ได้ถูกวางตำแหน่งให้เป็น Supercar ที่ถูกกฎหมายบนท้องถนน ซึ่งสามารถแข่งขันกับสุดยอดรถยนต์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง

2024 Shelby Super Snake: Muscle สุดขั้วพร้อมมรดก Shelby

2024 Shelby Super Snake คือสุดยอดการแสดงออกถึงสมรรถนะของ Mustang ที่ผสมผสานพละกำลังสุดขีดเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งอันเป็นตำนานของ Shelby American โดยพื้นฐานแล้วใช้เครื่องยนต์ 5.0 ลิตร Coyote V8 แต่ Super Snake สร้างกำลังได้ถึง 825 แรงม้า และแรงบิด 630 ปอนด์-ฟุต ด้วยซูเปอร์ชาร์จเจอร์ Whipple ขนาดใหญ่

สิ่งนี้ทำให้รถสามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.5 วินาที มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและดิบเถื่อน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 159,000 ดอลลาร์สหรัฐ Super Snake ต่อยอดจากรุ่นพิเศษปี 2021 โดยเพิ่มกำลังอีก 5 แรงม้า และออกแบบภายนอกใหม่ให้ดุดันยิ่งขึ้น

Shelby American ได้ยกระดับ Mustang ด้วยการอัปเกรดทางกลไกที่ครอบคลุม ส่วนประกอบช่วงล่าง สปริง โช้คอัพ และเหล็กกันโคลง ถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วน Shelby แบบพิเศษ

คาลิปเปอร์เบรก Wilwood 6 ลูกสูบด้านหน้า และ 4 ลูกสูบด้านหลัง พร้อมจานเบรกแบบมีรูระบายอากาศ ให้พลังการหยุดรถสูงสุด ในขณะที่ล้อฟอร์จขนาด 20 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Michelin Pilot Super Sport ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและความเสถียร

เพลาขับหลังได้รับการอัปเกรดด้วยชิ้นส่วน Ford Racing และตัวถังได้รับการปรับตั้งศูนย์อย่างสมบูรณ์เพื่อการควบคุมที่เหมาะสม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ ขณะเดียวกันก็ยังคงความรู้สึกเชื่อมต่อกับถนนไว้ เพื่อรักษาคาแรคเตอร์ของ Muscle Car ของ Mustang พร้อมทั้งเพิ่มการควบคุม

แผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงฝากระโปรงหน้า สปลิตเตอร์ สปอยเลอร์ กระโปรงข้าง และดิฟฟิวเซอร์ ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มอากาศพลศาสตร์ กระจังหน้าลาย Super Snake แถบคาดสี และโลโก้ Shelby ให้ความแตกต่างทางสายตา ขณะที่ภายในได้รับการปรับแต่งด้วยหนัง Shelby ปักโลโก้ที่พนักพิงศีรษะ และชุดมาตรวัดใหม่สำหรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และบูสต์

บนถนน Super Snake มีความดุดันและควบคุมยาก เครื่องยนต์มอบเสียงที่ทรงพลังพร้อมเสียงไอเสียที่คมชัดและดังกึกก้อง แม้ว่าเสียงหอนของซูเปอร์ชาร์จเจอร์จะเบาอย่างน่าประหลาดใจ การยึดเกาะในเกียร์ต่ำยังคงเป็นเรื่องท้าทาย และเพลาท้ายอาจบิดตัวภายใต้การเร่งความเร็วอย่างรุนแรง สร้างประสบการณ์ที่ดิบเถื่อนแต่ยังคงควบคุมได้

ช่วงล่างที่อัปเกรด ยางที่กว้าง และการปรับแต่งตัวถัง ช่วยให้รถยังคงเกาะถนน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ประโยชน์จากกำลังกว่า 800 แรงม้า ได้โดยไม่รู้สึกไม่ปลอดภัย แม้จะไม่ใช่รถสปอร์ตที่เน้นความแม่นยำ แต่ Super Snake ก็สามารถสร้างสมดุลระหว่างพละกำลังสุดขั้วกับโครงสร้างที่ขับขี่ได้และมั่นใจ

ด้วยราคา 159,000 ดอลลาร์สหรัฐ Super Snake แข่งขันกับ Mustang ปรับแต่งสมรรถนะสูงอื่นๆ เช่น Sutton Bespoke และ Steeda การผสมผสานระหว่าง Muscle Car ที่ดิบเถื่อน การอัปเกรด Shelby อันประณีต และประวัติศาสตร์อันเป็นตำนาน ทำให้เป็นรถที่พิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการ Muscle Car อเมริกันที่ถูกกฎหมายบนท้องถนน พร้อมกำลังกว่า 800 แรงม้า

2020 Dodge Challenger SRT Demon: การครองสนาม Drag Strip

2020 Dodge Challenger SRT Demon คือสัญลักษณ์แห่งสมรรถนะ Muscle Car ที่สร้างขึ้นเพื่อความเป็นที่หนึ่งในสนามทางตรง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6.2 ลิตร HEMI V8 Supercharged Demon สามารถสร้างกำลังได้สูงสุดถึง 840 แรงม้า และแรงบิด 770 ปอนด์-ฟุต เมื่อติดตั้งแพ็กเกจ Demon Crate และใช้น้ำมันออกเทนสูง

พละกำลังมหาศาลนี้ทำให้รถสามารถพุ่งทะยานจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 2.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 211 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้เป็นหนึ่งใน Muscle Car ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา

จุดเด่นหลักของ Demon คือการแข่งขัน Drag Racing ซึ่งเป็นที่ที่รถคันนี้โดดเด่นอย่างแท้จริง สามารถวิ่งในระยะควอเตอร์ไมล์ได้ในเวลา 9.65 วินาที ที่ความเร็ว 140 ไมล์ต่อชั่วโมงบนน้ำมัน E85 ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Dodge หัวใจสำคัญของสมรรถนะนี้คือระบบ TransBrake อันเป็นเอกลักษณ์ของรถ ซึ่งจะล็อคเกียร์เพื่อปรับปรุงการควบคุมการออกตัว

ตัวเลือกในการลดน้ำหนัก เช่น การถอดเบาะผู้โดยสารและเบาะหลัง ช่วยเพิ่มอัตราเร่งให้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่แพ็กเกจ Demon Crate มาพร้อมกับชุดควบคุมเครื่องยนต์พิเศษที่ปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของ V8 Supercharged ระบบแดมเปอร์แบบปรับได้ช่วยถ่ายเทน้ำหนักไปยังด้านหลังเพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้น และยางแบบ Super-sticky ที่ติดตั้งอยู่ใต้บังโคลนที่กว้างขึ้น ช่วยให้พละกำลังมหาศาลถูกส่งลงสู่พื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้จะโดดเด่นในสนามทางตรง แต่ Demon ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเข้าโค้งบนถนนคดเคี้ยว โครงสร้างและช่วงล่างถูกปรับให้เหมาะสมกับการออกตัวในสนาม Drag มากกว่าการเข้าโค้งแคบๆ และยางหลังที่กว้างเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการมุ่งเน้นการยึดเกาะสูงสุดขณะเร่งความเร็ว

แม้จะมีข้อจำกัดดังกล่าว รถคันนี้ยังคงความสบายสำหรับการขับขี่ทั่วไปหรือการเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ขับขี่ต้องเคารพในพละกำลังอันมหาศาลของมัน

ภายในห้องโดยสารโดยส่วนใหญ่จะเหมือนกับ Dodge Challenger รุ่นอื่นๆ โดยมีทางเลือกในการรื้อส่วนประกอบเพื่อลดน้ำหนัก หรือคงไว้ซึ่งความสะดวกสบาย อุปกรณ์มาตรฐานสามารถถอดออกและแทนที่ด้วยทางเลือกที่เรียบง่ายกว่า ในขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น เบาะนั่งแบบปรับร้อน/เย็น หลังคาซันรูฟ และระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม สามารถคงไว้ได้หากต้องการ

2020 Dodge Challenger SRT Demon ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ Muscle Car อเมริกัน พละกำลังที่ทำลายสถิติ ความสามารถในสนาม Drag และวิศวกรรมเฉพาะทาง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะในสนามทางตรงที่รถยนต์ไม่กี่คันในโลกจะเทียบเคียงได้

2022 Shelby GT500KR: วิวัฒนาการขั้นสุดของ Mustang

2022 Shelby GT500KR ซึ่งย่อมาจาก “King of the Road” เป็นเครื่องบรรณาการในโอกาสครบรอบ 60 ปีของ Shelby American และเป็นความสำเร็จอันสูงสุดของสายการผลิต GT500 ที่ใกล้จะสิ้นสุดลง GT500KR ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 225 คันทั่วโลก ผสมผสานเครื่องยนต์ 5.2 ลิตร Predator V8 เข้ากับซูเปอร์ชาร์จเจอร์ Whipple ขนาด 3.2 ลิตร สร้างกำลังได้ประมาณ 900 แรงม้า และแรงบิด 750 ปอนด์-ฟุต

พละกำลังมหาศาลนี้ส่งให้รถพุ่งทะยานจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลา 3.2 วินาที ตอกย้ำสถานะของมันในฐานะ Ford Mustang ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ราคา 127,895 ดอลลาร์สหรัฐ GT500KR มาพร้อมกับโลโก้ Shelby และการตกแต่งภายในอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสม

GT500KR ยังคงสืบทอดตำนานของ GT500 ซึ่งเปิดตัวในปี 1967 เมื่อ Carroll Shelby ได้นำเครื่องยนต์ V8 ขนาดใหญ่ยัดเข้าไปใน Mustang รุ่นปัจจุบัน GT500 ซึ่งเปิดตัวในปี 2020 เป็น Mustang ที่ทรงพลังที่สุดที่วิ่งบนถนนได้แล้ว โดยมีกำลัง 760 แรงม้า และแรงบิด 625 ปอนด์-ฟุต

ด้วยการอัปเกรด KR รถคันนี้ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของ Muscle Car ไปสู่การแข่งขันกับ Supercar ที่มีราคาสูงกว่ามาก ด้วยโครงสร้างช่วงล่างที่พร้อมลงสนามแข่ง การควบคุมที่แม่นยำ และอัตราเร่งที่ฉับไว

แพ็กเกจ Carbon Fiber Track Package ที่เป็นอุปกรณ์เสริม เปลี่ยน GT500 ให้เป็น Supercar ที่เน้นในสนามแข่ง แพ็กเกจนี้มาพร้อมล้อคาร์บอนไฟเบอร์ขนาด 20 นิ้ว ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ปีกหลังขนาดใหญ่ เบาะคู่หน้า Recaro และการถอดเบาะหลังออก

แกนปรับโช้คอัพแบบปรับได้และถังดักจับไอน้ำมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะที่การตกแต่งภายในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มสุนทรียศาสตร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากการแข่งขัน แม้จะไม่มีแพ็กเกจนี้ GT500KR ก็ยังคงมีสมรรถนะที่น่าประทับใจ การเปลี่ยนเกียร์ของเกียร์คู่มีความรวดเร็วเหมือนเสียงปืน และเบรกขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่ทรงพลัง

GT500KR ยังนำเสนอเทคโนโลยีและความสะดวกสบายที่ทันสมัย หน้าจอสัมผัสขนาด 8.0 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto แผงหน้าปัดดิจิทัลแบบปรับแต่งได้ขนาด 12.0 นิ้ว และระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen 12 ลำโพง (อุปกรณ์เสริม) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและความเพลิดเพลิน พื้นที่วางขาด้านหน้ากว้างขวางที่ 45.1 นิ้ว และพื้นที่เก็บสัมภาระ 13.5 ลูกบาศก์ฟุต ทำให้มีความสะดวกสบายกว่าคู่แข่งอย่าง C8 Corvette

การเปรียบเทียบสมรรถนะเน้นย้ำถึงความเหนือกว่าของ GT500KR เหนือ Dodge Hellcat รุ่นต่างๆ ด้วยอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงที่เร็วกว่า และการวิ่งควอเตอร์ไมล์ที่เร็วกว่า ด้วยการยึดเกาะที่ดีขึ้นและการปรับแต่งแชสซีขั้นสูง ด้วยจำนวนเพียง 225 คัน 2022 Shelby GT500KR จึงเป็น Mustang ที่หายากและทรงพลังอย่างยิ่ง ซึ่งผสมผสานมรดก Muscle Car อเมริกันเข้ากับสมรรถนะ Supercar ยุคใหม่

2023 Dodge Challenger SRT Demon 170: Ultimate Drag Muscle Car

2023 Dodge Challenger SRT Demon 170 คือเครื่องจักร Drag Racing ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะจากโรงงาน และเป็น Muscle Car ที่สุดขั้วที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ด้วยราคาพื้นฐาน 96,666 ดอลลาร์สหรัฐ Hypercar พละกำลัง 1,025 แรงม้านี้ สร้างแรงบิดมหาศาลถึง 945 ปอนด์-ฟุต ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6.2 ลิตร Hemi V8 Supercharged

อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 1.66 วินาที และสามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ในเวลาเพียง 8.9 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์โปรดักชันที่เร็วที่สุดในโลกในด้านการเร่งความเร็วในสนามทางตรง

Demon 170 คือการอำลา Challenger ครั้งสุดท้ายที่เน้นการแข่งขัน Drag โดยเฉพาะ รถคันนี้ใช้น้ำมันเอทานอล E85 ซึ่งบ่งบอกด้วยตัวเลข “170” ในชื่อ และใช้เครื่องยนต์ Hellcat V8 ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างสูง การอัปเกรดประกอบด้วยลูกสูบ ก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง หัวฉีดน้ำมัน และสตัดฝาสูบที่แข็งแรงกว่าเดิม พร้อมด้วยซูเปอร์ชาร์จเจอร์ขนาดใหญ่ 3.0 ลิตร

เมื่อใช้น้ำมัน E10 ทั่วไป รถยังคงสร้างกำลังได้ 900 แรงม้า และแรงบิด 810 ปอนด์-ฟุต ทำให้ทรงพลังอย่างน่าสะพรึงกลัวภายใต้สภาวะใดๆ ก็ตาม กำลังถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดไปยังล้อหลัง ในขณะที่ยาง Drag-spec และช่วงล่างช่วยให้มั่นใจในการยึดเกาะสูงสุดในสนามแข่ง

Demon 170 ถูกออกแบบมาเพื่อสมรรถนะ Drag โดยเฉพาะ ความสามารถในการเร่งความเร็วและการออกตัวของรถนั้นเหนือกว่า Hypercar ขับเคลื่อนสี่ล้อส่วนใหญ่ รวมถึง Rimac Nevera, Tesla Model S Plaid และ Porsche 911 Turbo S แม้ว่าการบรรลุสมรรถนะสูงสุดจะต้องใช้สนาม Drag ที่เตรียมไว้และความเชี่ยวชาญของผู้ขับขี่

Dodge ยังมีทางเลือกในการติดตั้งเบาะผู้โดยสารและเบาะหลังในราคา 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ และซันรูฟในราคา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่ารถคันนี้จะถูกออกแบบมาให้รื้อส่วนประกอบเพื่อลดน้ำหนักให้มากที่สุด

ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก Demon 170 ยังคงไว้ซึ่งรูปทรงคลาสสิกของ Challenger แต่เพิ่มส่วนโค้งที่บังโคลนล้อหลังที่ขยายออก และรายละเอียดอื่นๆ ที่มองเห็นได้ยาก ทำให้สามารถจดจำได้โดยผู้ที่ชื่นชอบเท่านั้น แม้จะมีสมรรถนะที่มหาศาล แต่ก็ยังคงถูกกฎหมายบนท้องถนน แม้ว่าศักยภาพที่แท้จริงจะถูกปลดปล่อยออกมาในสนาม Drag เท่านั้น

Challenger SRT Demon 170 เป็นตัวแทนของการแสดงออกถึงปรัชญา Muscle Car ของ Dodge ในขั้นสูงสุด: พละกำลังสูงสุด การครองสนามทางตรง และการมีส่วนร่วมของผู้ขับขี่อย่างเต็มที่

สำหรับผู้ที่ต้องการรถ Drag จากโรงงานที่เร็วที่สุดพร้อมเครื่องยนต์ V8 และราคาต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ Demon 170 คือเครื่องจักรที่เกิดขึ้นเพียงชั่วอายุคน ผสมผสานมรดก Muscle Car อเมริกันเข้ากับสมรรถนะที่ทำลายสถิติ

2025 Chevrolet Corvette ZR1 C8: สุดยอดมิด-เอ็นจิ้น 1,064 HP

2025 Chevrolet Corvette ZR1 C8 คือ Supercar เครื่องยนต์วางกลางลำ ที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะอเมริกัน ด้วยพละกำลังมหาศาล 1,064 แรงม้า และแรงบิด 828 ปอนด์-ฟุต จากเครื่องยนต์ 5.5 ลิตร V8 Twin-turbo

ด้วยอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงเพียง 2.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 233 ไมล์ต่อชั่วโมง ZR1 ได้ก้าวข้าม Hypercar หลายรุ่นในด้านอัตราเร่ง ในขณะที่ยังมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่ามาก ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมยางหลังขนาดมหึมา 345 มม. ส่งพละกำลังทั้งหมดนี้ลงสู่พื้นถนน ทำให้เป็นประสบการณ์ที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลักอย่างแท้จริง

เครื่องยนต์ LT7 V8 ของ ZR1 คือผลงานวิศวกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด พัฒนาควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ LT6 แบบดูดอากาศธรรมชาติของ Z06 ในฐานะส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ “Gemini twins” แม้จะใช้สถาปัตยกรรมพื้นฐานร่วมกัน แต่ LT7 ได้รับการปรับแต่งพิเศษสำหรับเทอร์โบชาร์จเจอร์ รวมถึงลูกสูบแบบเว้า ก้านสูบไทเทเนียมที่สั้นลง ห้องเผาไหม้ที่ใหญ่ขึ้น และเพลาข้อเหวี่ยงแบบ Flat-plane

เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่สร้างบูสต์ได้สูงสุด 24 psi พร้อมระบบ Anti-lag เพื่อการตอบสนองของคันเร่งทันที ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบพอร์ตเสริม หัวฉีดทั้งหมด 16 ตัว และระบบหล่อเย็นระดับมอเตอร์สปอร์ต ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถส่งมอบสมรรถนะระดับสูงได้อย่างสม่ำเสมอ ขุมกำลังนี้ยังเป็นพื้นฐานสำหรับรถแข่ง Corvette GT3.R ที่ใช้ในการแข่งขัน Le Mans และ Daytona

ในสนามแข่ง ZR1 พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมที่น่าทึ่ง แม้จะมีพละกำลังมหาศาล ด้วยแพ็กเกจ Carbon Aero ราคา 8,495 ดอลลาร์สหรัฐ และยาง Michelin PS4 รถคันนี้แสดงให้เห็นถึงความเสถียรที่น่าประทับใจในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงที่ Circuit of the Americas ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ประโยชน์จากสมรรถนะเต็มที่ได้โดยไม่ต้องกลัวการท้ายปัดอย่างกะทันหัน

แพ็กเกจ ZTK Performance Package (1,500 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มสปริงที่แข็งขึ้น ช่วงล่างที่ปรับแต่งสำหรับสนามแข่ง ยาง Michelin Cup 2 R และการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ เช่น ปีกหลังขนาดใหญ่และระนาบด้านหน้า ช่วยสร้างแรงกดได้สูงสุด 1,200 ปอนด์ ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพที่ความเร็วสูงสุด เบรกคาร์บอนเซรามิกขนาด 15.7 นิ้ว ด้านหน้า และ 15.4 นิ้ว ด้านหลัง ให้พลังการหยุดรถที่ปราศจากการซีดจาง

แม้จะมีขีดความสามารถอันมหาศาล ZR1 ยังคงใช้งานได้สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน นำเสนอความสบายและความสะดวกสบายที่ Supercar เครื่องยนต์วางกลางลำหลายรุ่นไม่มีให้ การส่งแรงบิดที่ราบรื่น เกียร์อัตโนมัติแบบคู่ 8 สปีดที่ตอบสนอง และสมดุลของแชสซี ทำให้เป็นประสบการณ์ที่เข้าถึงได้แต่ก็เร้าใจ แม้ว่าอาจจะไม่สามารถทำแรง G ในการเข้าโค้งได้เท่า GT3 RS แต่ก็มอบพละกำลังที่ดิบและไม่ปรุงแต่ง ในแพ็กเกจ Supercar สไตล์อเมริกันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ด้วยราคาเริ่มต้น 174,995 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับรุ่น Coupe และ 184,995 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับรุ่น Convertible 2025 Corvette ZR1 C8 เป็นตัวแทนของการผสมผสานสมรรถนะสุดขั้ว ความสามารถในสนามแข่ง และราคาที่สมเหตุสมผลได้อย่างหาได้ยาก ทำให้เป็นตำนานยานยนต์ยุคใหม่

Hennessey Venom GT: ผู้บุกเบิก Hypercar 1,244 HP

Hennessey Venom GT ซึ่งเปิดตัวในปี 2010 เป็น Hypercar สัญชาติ Hennessey Performance แห่งแรก และได้ตอกย้ำชื่อเสียงของบริษัทด้านยานยนต์สมรรถนะสูงอย่างยิ่งยวด สร้างขึ้นบนตัวถัง Lotus Elise ที่ได้รับการปรับแต่ง Venom GT ผสมผสานโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเข้ากับเครื่องยนต์ 7.0 ลิตร V8 Twin-turbo จาก Corvette Z06 LS7

เครื่องยนต์นี้สร้างกำลังได้ 1,244 แรงม้า และแรงบิด 1,155 ปอนด์-ฟุต ทำให้รถสามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลา 2.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการได้ 270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์โปรดักชันที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา

การออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบาทำให้มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักเกือบ 1 แรงม้าต่อกิโลกรัม ทำให้รถสามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ในเวลาต่ำกว่า 10 วินาที มีการผลิตเพียง 13 คันเท่านั้น แต่ละคันมีราคา 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงความพิเศษของรถ

เครื่องยนต์มีสามระดับกำลัง: 725 แรงม้าสำหรับรุ่นพื้นฐาน, 1,000 แรงม้าสำหรับรุ่น Twin-turbo และ 1,244 แรงม้าสำหรับรุ่นสูงสุด

Venom GT มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบช่วงล่างแบบปรับได้ ระบบอากาศพลศาสตร์แบบแอคทีฟ แผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ปีกหลัง และยาง Michelin Pilot Super Sport ขนาด 345/30 บนล้อหลังขนาด 20 นิ้ว เบรกคาร์บอนเซรามิก พร้อมคาลิปเปอร์ Brembo 6 ลูกสูบที่แต่ละมุม ให้พลังการหยุดที่ยอดเยี่ยม

Hennessey ได้พัฒนา Venom GT โดยใช้ประสบการณ์จาก Viper สมรรถนะสูง ผสมผสาน Muscle Car อเมริกันเข้ากับโครงสร้างวางกลางลำที่เบา เพื่อทั้งความเร็วและการควบคุม Delta Motorsport ในสหราชอาณาจักร ได้ช่วยปรับปรุงโครงสร้างช่วงล่าง เบรก และอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้แน่ใจว่ารถสามารถรองรับพละกำลังที่สูงเป็นพิเศษได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

แม้ว่านักวิจารณ์บางส่วนจะมองว่ารถคันนี้เป็นเพียง Lotus ที่ยืดออกพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาดใหญ่ แต่การทดสอบบนรันเวย์ของทหารและถนนชนบทได้แสดงให้เห็นถึงความสมดุลที่ยอดเยี่ยม ความสง่างาม และความสามารถในการขับขี่ที่สามารถแข่งขันกับ Supercar ที่มีราคาสูงกว่ามากได้

Venom GT เป็นตัวแทนของวิสัยทัศน์อันกล้าหาญของ Hennessey ในการผสมผสานวิศวกรรมน้ำหนักเบาเข้ากับพละกำลังมหาศาล การผสมผสานระหว่าง Muscle Car อเมริกัน ความเร็วที่ทำลายสถิติ และวิศวกรรมที่แม่นยำ ทำให้เป็นยานพาหนะที่โดดเด่นในประวัติศาสตร์ Hypercar โปรดักชัน และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของสิ่งที่สมรรถนะสุดขั้วสามารถทำได้

SSC Tuatara: Hypercar 1,750 HP

SSC Tuatara คือผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก Ultimate Aero ของ SSC ที่เคยทำลายสถิติในช่วงกลางทศวรรษ 2000 ได้สร้างตัวเองให้เป็นหนึ่งใน Hypercar ที่สุดขั้วที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา

ด้วยเครื่องยนต์ 5.9 ลิตร V8 Twin-turbo ที่สร้างกำลังได้ 1,750 แรงม้าเมื่อใช้น้ำมัน E85 Tuatara ถูกออกแบบมาเพื่อความเร็วที่เหนือชั้น ด้วยอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงโดยประมาณที่ 2.5 วินาที และความเร็วสูงสุดที่อ้างว่าเกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง รถคันนี้ยังสร้างแรงบิดมหาศาลถึง 1,280 ปอนด์-ฟุต ทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีแรงบิดสูงสุดในตลาด

การออกแบบของ Tuatara เน้นอย่างมากที่อากาศพลศาสตร์ โดยมีลักษณะคล้ายยานอวกาศที่มีรูปทรงที่ต่ำและดุดัน ออกแบบโดย Jason Castriota ผู้ซึ่งเคยออกแบบ Ferrari 599 และรถต้นแบบ Saab Aero-X Tuatara ผสมผสานรูปทรงที่สุดขั้วเข้ากับฟังก์ชันการใช้งาน

น้ำหนักของรถเพียง 2,750 ปอนด์เท่านั้น ต้องขอบคุณการใช้คาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุผสมในโครงสร้างและแผงตัวถัง ทำให้มีน้ำหนักเบากว่า Subaru BRZ การก่อสร้างที่เบานี้ช่วยให้พละกำลังมหาศาลถูกส่งไปยังล้อหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพที่ความเร็วสูง

SSC ให้คำมั่นที่จะผลิต Tuatara เพียง 100 คันเท่านั้น โดยแต่ละคันมีราคาประมาณ 2,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ความพิเศษนี้ตอกย้ำสถานะของ Hypercar ในฐานะของสะสมและสิ่งแสดงทางเทคโนโลยี

Tuatara เดินตามรอยตำนานของ SSC ในการทำลายสถิติ ซึ่งเริ่มต้นด้วย Ultimate Aero TT รถคันนั้นทำความเร็วสูงสุดได้ 256 ไมล์ต่อชั่วโมงบนถนนปิดในรัฐวอชิงตันในปี 2007 ได้แซงหน้า Supercar ยุโรปไปชั่วขณะ จนกระทั่ง Bugatti Veyron Super Sport ได้อ้างสิทธิ์ในสถิติไป

การพัฒนารถ Tuatara ประสบกับความล่าช้าหลายครั้ง แรกเริ่มนำเสนอในปี 2011 รถต้นแบบมีเครื่องยนต์ V8 Bi-turbo 6.9 ลิตร 1,350 แรงม้า โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ และเกียร์ธรรมดา 7 สปีด

แม้จะมีความตื่นเต้นในช่วงแรกและแผนการเปิดตัวต่อสาธารณะ ปัญหาด้านเงินทุนและการพัฒนารถที่ล่าช้าได้เลื่อนการผลิตออกไป SSC ได้รับเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 829,000 ดอลลาร์สหรัฐจากรัฐบาลท้องถิ่นในวอชิงตันเพื่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ แต่ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการทดสอบและการส่งมอบยังคงหาได้ยาก ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบตั้งตารอการมาถึงของรถคันนี้อย่างใจจดใจจ่อ

SSC Tuatara เป็นตัวแทนของการผสมผสานวิศวกรรมสุดขั้ว ความทะเยอทะยานแบบอเมริกัน และความพิเศษของ Hypercar ด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบา พละกำลังมหาศาล และการออกแบบที่แปลกใหม่ รถคันนี้ยังคงสืบทอดประเพณีของ SSC ในการท้าทายขีดจำกัดของสมรรถนะรถยนต์โปรดักชัน

Hennessey Venom F5: Hypercar 1,817 HP

Hennessey Venom F5 คือ Hypercar ขั้นสูงสุดของ Hennessey Texas ผู้ปรับแต่งรถ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการก้าวข้ามความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง ตั้งชื่อตามพายุทอร์นาโด F5 รถคันนี้เป็นตัวแทนของพละกำลังดิบและความเร็ว Hennessey วางแผนที่จะผลิตรุ่น Coupe เพียง 24 คันเท่านั้น โดยแต่ละคันมีราคาประมาณ 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมด้วยรุ่น Targa และรุ่น Track ที่มีแรงกดสูงตามมา

หัวใจของ Venom F5 คือเครื่องยนต์ 6.6 ลิตร V8 Twin-turbo “Fury” ที่สร้างกำลังได้สูงถึง 1,817 แรงม้า และแรงบิด 1,193 ปอนด์-ฟุต รถมีน้ำหนักเพียง 1,360 กิโลกรัม (น้ำหนักแห้ง) ต้องขอบคุณโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้มีน้ำหนักเบาอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับพละกำลังมหาศาล

กำลังสูงสุดจะถึงที่ 8,000 รอบต่อนาที โดยมี Redline ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดจะมาถึงที่ 5,000 รอบต่อนาที ตัวเลขสมรรถนะสุดขั้ว รวมถึงอัตราเร่ง 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 2.6 วินาที, 0-124 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 4.7 วินาที และ 0-250 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 15.5 วินาที ยานพาหนะคันนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบกึ่งคลัทช์ 7 สปีด ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกำลังที่น่าทึ่งนี้

แม้ว่าสถิติความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ Hennessey อ้างว่า F5 สามารถทำความเร็วได้ถึง 311 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยการจำลองแสดงให้เห็นศักยภาพที่สูงถึง 328 ไมล์ต่อชั่วโมง

Venom F5 ให้ความสำคัญกับทั้งสมรรถนะสุดขั้วและความสามารถในการขับขี่ ตัวถังแอโรไดนามิกที่เรียบง่ายช่วยลดแรงยกที่ความเร็วสูง ในขณะที่เบรก Brembo คาร์บอนเซรามิก โช้คอัพแบบ Fixed-rate และยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ช่วยให้ควบคุมรถได้

ภายในห้องโดยสารมีความเรียบง่าย มีพวงมาลัยทรง Yoke แผงหน้าปัดดิจิทัล และการตกแต่งด้วยคาร์บอนและหนัง เน้นสมรรถนะมากกว่าความหรูหรา แม้จะมีความเข้มข้นสูง รถคันนี้ยังคงสามารถใช้งานบนถนนสาธารณะได้ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ โดยเสียงเครื่องยนต์ การสั่นสะเทือน และอัตราเร่ง ครอบงำทุกประสาทสัมผัส

ทั้งในสนาม Drag และบนถนนสาธารณะ F5 ให้สมรรถนะที่รุนแรง มอบอัตราเร่งที่เกือบจะทันทีและการตอบสนองทางประสาทสัมผัสที่รุนแรง เกียร์กึ่งอัตโนมัติให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รุนแรงและแม่นยำเมื่อใช้คันเร่งเต็มที่ ในขณะที่ช่วงล่างแบบ Fixed-rate ให้การควบคุมที่ควบคุมได้น่าประหลาดใจสำหรับ Hypercar ในระดับเดียวกัน

Hennessey ได้มุ่งเน้นไปที่ความสมดุลและแรงกด เพื่อให้แน่ใจว่า F5 ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องทำความเร็วสูงสุด แต่ยังเป็นรถที่สามารถรองรับสภาวะการขับขี่ในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแม่นยำ

Hennessey Venom F5 คือหมุดหมายสำคัญใน Hypercar เครื่องยนต์สันดาปภายใน ผสมผสานความเร็วสุดขั้ว วิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม และความตื่นเต้นในการขับขี่ที่ดิบเถื่อน เข้าเป็นหนึ่งในยานพาหนะที่มีศักยภาพมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา

บทสรุป

รถสปอร์ตอเมริกันทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขบนเอกสารข้อมูล แต่เป็นการประกาศถึงความทะเยอทะยาน ความเฉลียวฉลาด และความหลงใหลในการขับขี่ที่ไร้ขีดจำกัด ตั้งแต่ Shelby GTD ที่ครองสนามแข่ง ไปจนถึง Venom F5 ระดับ Hypercar ยานยนต์เหล่านี้ได้ผลักดันขีดจำกัดที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ผลิตในประเทศ

รถแต่ละคันผสมผสานวิศวกรรมขั้นสูง การก่อสร้างที่เบา และพละกำลังมหาศาล เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ซึ่งเรียกความสนใจได้ทุกท้องถนนและสนามแข่ง พวกมันให้เกียรติมรดกแห่ง Muscle และสมรรถนะ พร้อมทั้งเปิดรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ พิสูจน์ให้เห็นว่ารถสปอร์ตอเมริกันมีความสามารถและน่าตื่นเต้นไม่แพ้ Supercar จากต่างประเทศ

ยานยนต์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จทางวิศวกรรม แต่ยังเป็นไอคอนทางวัฒนธรรม เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในความเร็ว พละกำลัง และความตื่นเต้นในการขับขี่ พวกมันสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่กล้าหาญ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมรดกแห่งรถยนต์สมรรถนะสูงของประเทศ

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสกับสุดยอดแห่งสมรรถนะและความเป็นเลิศทางวิศวกรรมของอเมริกา วันนี้คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะค้นหาและสัมผัสประสบการณ์กับรถสปอร์ตอเมริกันที่ทรงพลังที่สุดเหล่านี้ จองการทดลองขับ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดลที่คุณสนใจ เพื่อก้าวสู่โลกแห่งความเร็วที่ไม่เหมือนใคร!

Previous Post

N3012034 เล อกท จะเป เป นพ นฐานท ของครอบคร part2

Next Post

N3012032 เซฟโซนท มาจากครอบคร วท part2

Next Post
N3012032 เซฟโซนท มาจากครอบคร วท part2

N3012032 เซฟโซนท มาจากครอบคร วท part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0101001 ณหมอแอบแซบก บพยาบาล งๆท เขาก แฟนเป นพยาบาลเหม อนก part2
  • N0101017 แม านก บค ณนายม แฟนเป นคนเด ยวก แบบน จะทำไงต part2
  • N0101007 ให พน กงานใส แพมเพ สทำงาน และห ามใครไปเข าห องน part2
  • N0101015 กโทษหญ งหน ดวงซวยด นไปฉ หล งรถตำรวจ แต เธอขอไปเจอคนๆน part2
  • N0101006 ชายคนน เส ยความทรงจำ จนเขาไม าสองคนน ใครค อแฟนของเขา part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.