• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0201062 เจอก นคร งแรก งเข ามาจ บซ ะง part2

admin79 by admin79
December 29, 2025
in Uncategorized
0
N0201062 เจอก นคร งแรก งเข ามาจ บซ ะง part2

มหกรรมยานยนต์ 2010: เปิดโลกนวัตกรรม ยานยนต์แห่งอนาคต

ปี 2010 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าจดจำสำหรับวงการยานยนต์ไทย เมื่อ “งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Motor Expo” ได้กลับมาจัดขึ้นอีกครั้ง ณ Challenger Hall ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2010 งานในปีนี้ไม่เพียงแต่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์เท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชนและผู้บริโภคทั่วไปได้อย่างล้นหลาม ด้วยไฮไลท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รุ่นต้นแบบ (Prototype) หลายรุ่น ที่ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premiere) แม้บางรุ่นจะยังไม่พร้อมวางจำหน่ายจริงในทันทีก็ตาม

สำหรับผม ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ การได้สัมผัสบรรยากาศของงาน Motor Expo แต่ละปี คือโอกาสอันดีในการอัปเดตเทรนด์ล่าสุด และทำความเข้าใจทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดนิ่ง ปีนี้เช่นเคย ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินชมบูธต่างๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนในวงการ และเก็บภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจมาแบ่งปันกัน แม้จะไม่ได้เน้นความจริงจังแบบงานประจำ แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข และความรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับกลับมาเสมอ

BMW / MINI: ความหรูหรา และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์

เริ่มต้นที่บูธ BMW และ MINI ที่ปีนี้ขนทัพรถใหม่มาจัดแสดงถึง 3 รุ่น ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BMW 520d และ BMW 525d โดยเฉพาะรุ่น 525d ที่เคาะราคาจำหน่ายไว้ที่ 4.4 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้เล็กน้อย ถือเป็นการตอบรับความต้องการของตลาดอย่างตรงจุด

ในพื้นที่ติดกัน MINI Countryman ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามตลอดทั้งวัน เป็นเครื่องยืนยันถึงดีไซน์อันโดดเด่น และความนิยมที่ MINI มีในกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบรถยนต์ที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร

Chevrolet: กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด และการตอบโจทย์ตลาด

Chevrolet ในปีนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการทำตลาดอย่างชัดเจน หลังจากที่เห็น Cruze รุ่น LTZ เป็นพระเอกของงานในวันเปิดตัว สู่การนำเสนอ Cruze ในรุ่นย่อยต่างๆ ทั้ง LS, LT และ LTZ อย่างครบถ้วน สะท้อนให้เห็นถึงการบ้านที่ทีมการตลาดของ Chevrolet ได้เตรียมมาเป็นอย่างดี การเปิดตัว Aveo CNG ถือเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ที่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง การนำเสนอรถยนต์ขนาดเล็กที่เน้นความประหยัดเชื้อเพลิงเป็นหลัก ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่า และการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง

Citroën: การกลับมาของดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์

ภายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร ยนตรกิจ ได้แยกการบริหารออกเป็น 3 กลุ่มหลัก โดยหนึ่งในนั้นคือ DAD ซึ่งรับผิดชอบการทำตลาดรถยนต์ Audi, MTM, Citroën รวมถึงรถยนต์จากจีน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สร้างความฮือฮา และเป็นที่ชื่นชอบอย่างยิ่ง คือการนำ Citroën DS3 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเสียที ด้วยดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น สมรรถนะที่น่าประทับใจ ด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และราคาที่ตั้งไว้ที่ 1.495 ล้านบาท ทำให้ DS3 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และถูกมองว่าเป็นการตอบคำถามว่าหาก Citroën ต้องการสร้างรถยนต์มาแข่งขันกับ MINI จะมีหน้าตาเป็นเช่นไร DS3 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ

FIAT: ความคลาสสิกเหนือกาลเวลา

พระนครยนตรการ ยังคงเดินหน้าทำตลาดรถยนต์ Fiat และ Alfa Romeo อย่างต่อเนื่อง แม้ว่า Alfa Romeo จะเงียบหายไปจากตลาด แต่ Fiat 500 ยังคงเป็นดาวเด่น ที่เป็นเสมือนหัวใจหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเขา การนำเสนอ Fiat 500 เครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาเสริมทัพ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Fiat

Ford: Fiesta ยังคงครองใจ

Ford Fiesta ยังคงเป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในบูธ Ford บนพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถนำรถมาจัดแสดงได้หลากหลายรุ่นมากขึ้น แต่ยังคงไร้วี่แววของรถกระบะรุ่นใหม่ ที่หลายคนรอคอย

Honda: World Premiere ที่สร้างปรากฏการณ์

การเปิดตัว Honda BRIO อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก (World Premiere) บนเวที Motor Expo 2010 ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สร้างปรากฏการณ์อย่างแท้จริง รถยนต์ขนาดเล็กในกลุ่ม Sub-B-Segment หรือ A-Segment คันนี้ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยการประกาศราคาเริ่มต้นที่ 400,000 บาท และกำหนดวางจำหน่ายจริงในเดือนมีนาคม 2011 Honda ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการเปิดตัวครั้งนี้ โดยมีการเช่าพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อรองรับระบบถ่ายทอดสด และได้เชิญสื่อมวลชนจากอินเดียเข้าร่วมงาน เพื่อบันทึกช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ การปรากฏตัวของ BRIO ทำให้รถยนต์ Eco Car กลายเป็นที่จับตา และเป็นตัวพลิกเกมของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในไทยไปโดยปริยาย

Hyundai: ความอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์

Hyundai นำเสนอ Grand Starex รถตู้รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป รวมถึงรถต้นแบบ i-Blue สีฟ้าสดใส ที่สร้างสีสันให้กับบูธ การนำเสนอรถต้นแบบในรูปแบบที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของทีมงาน

Isuzu: การปรับภาพลักษณ์สู่ความทันสมัย

Isuzu ได้ปรับภาพลักษณ์ของบูธใหม่ให้ดูทันสมัย และเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น ด้วยการนำเสนอ D-Max X-Series อย่างเต็มรูปแบบ สิ่งที่วงการยานยนต์กำลังจับตา คือการเปิดตัว D-Max รุ่นต่อไปในปี 2011 ภายใต้รหัสโครงการ RT-50 ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสาร จะเป็นปัจจัยสำคัญต่ออนาคตของ Isuzu ในระยะยาว

Land Rover: การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่

British Motor ผู้นำเข้าและจำหน่าย Land Rover ในปัจจุบัน ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำตลาด โดยการขนทัพ SUV มาจัดแสดงอย่างเต็มพิกัดในบูธขนาดใหญ่ที่น่าประทับใจ การกลับมาครั้งนี้ สะท้อนถึงศักยภาพ และความตั้งใจที่จะกลับมาเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์อีกครั้ง

LEXUS: นวัตกรรม Hybrid ที่น่าจับตา

Lexus CT200h สร้างความประหลาดใจ ด้วยการปรากฏตัวในงานนี้ ด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีสไตล์ และเทคโนโลยี Hybrid ที่ทันสมัย ขับเคลื่อนด้วยระบบ THS-II เช่นเดียวกับรถยนต์ Hybrid ของ Toyota การตั้งราคาเริ่มต้นที่ 2.2 ล้านบาท ถือเป็นราคาที่น่าสนใจ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าถึงเทคโนโลยี Hybrid ของ Lexus ในตลาดประเทศไทย

Mazda: การผสมผสานดีไซน์ และเทคโนโลยี

Mazda นำเสนอรถต้นแบบ Ryuga รวมถึงรถตกแต่งพิเศษจากคุณพีท ทองเจือ และ Mazda 2 Navi ที่มาพร้อมระบบนำทางจากโรงงาน การปรากฏตัวของทีมงาน The Coup Channel ที่มาบันทึกเบื้องหลังการถ่ายทำรายการ ยิ่งเพิ่มสีสันและความน่าสนใจให้กับบูธ

Mercedes-Benz: ความหรูหรา และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

Mercedes-Benz สร้างความประทับใจด้วยการจัดบูธในรูปแบบโชว์รูมจำลองที่ดูน่ารัก และน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว R-Class Minorchange รุ่น R350 และรถตู้ Vito รุ่นต่างๆ รวมถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ E250 CGI Blue Efficiency T-Model ตัวถังสเตชันแวกอนของ E-Class ใหม่ ซึ่งมีดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้ และเป็นที่จับตาของหลายๆ คน

Mitsubishi Motors: สู่ยุคแห่งพลังงานทางเลือก

Mitsubishi นำเสนอ i-MIEV Sport รถต้นแบบพลังงานไฟฟ้า ที่น่าสนใจด้วยสมรรถนะที่ทำความเร็วได้ถึง 180 กม./ชม. และการใช้วัสดุ Bio-plastic ในการตกแต่งภายใน แสดงถึงทิศทางของรถยนต์พลังงานสะอาด ส่วน Lancer EX ถูกนำเสนอในรูปแบบที่ดึงดูดสายตา ด้วยการ Wrap สีเหลืองหลังคาดำ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก การยุติการผลิตเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร สำหรับ Pajero Sport และ Triton พร้อมการเปิดตัวเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร VGT ตัวใหม่ในช่วงต้นปี 2011 แสดงถึงการปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด

Nissan: เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

แม้ว่า Nissan จะมี 370Z ที่เปิดตัวและพร้อมจำหน่าย แต่ไฮไลท์ของปีนี้คือ March Autech ชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน, X-Trail รุ่นย่อยพิเศษ และ Navara Minorchange ภายในสีดำ การเตรียมทัพรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะกรีฑาทัพเข้ามาในปีถัดไป แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรุกตลาดอย่างเต็มที่

Peugeot: ดีไซน์สปอร์ตที่โดดเด่น

Peugeot สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว RCZ รถสปอร์ตคูเป้ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Turbo 156 แรงม้า ราคา 2.95 ล้านบาท และรุ่น 200 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ราคา 3.1 ล้านบาท ซึ่งน่าสนใจยิ่งกว่า รวมถึง 207 CC Sport ที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ MINI Cooper ธรรมดา

Proton: ก้าวสู่ตลาด Sub-B-Segment

Proton Saga รถยนต์ Sub-B-Segment ขนาดเล็ก ได้เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย โดยรุ่นที่จัดแสดงเป็นรุ่น Minorchange ที่เปิดตัวครั้งแรกของโลกในงานนี้ พร้อมเครื่องยนต์ Campro 1.3 ลิตร การตั้งราคาที่ใกล้เคียงกับ Savvy ถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก

RUF: ขุมพลังเหนือระดับ

การกลับมาของ RUF สำนักแต่งชื่อดังระดับโลก สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบความแรง แม้จะใช้พื้นฐานจาก Porsche แต่ RUF มีสิทธิ์ในการตอกหมายเลขตัวถัง (VIN Number) ตามกฎหมายเยอรมัน การปรากฏตัวของ RUF ในงานนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะขั้นสูง

Ssangyong: การพลิกโฉมครั้งสำคัญ

Ssangyong กลับมาสร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว Korando รุ่นใหม่ ที่พลิกโฉมจากรุ่นเดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการกลับมาแข่งขันในตลาดอีกครั้ง โดยคาดว่า Mahindra & Mahindra จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

Subaru: สมรรถนะ และเสน่ห์อันเย้ายวน

Subaru โดย Motor Image เปิดตัว Impreza WRX A-Spec เกียร์อัตโนมัติ และสร้างสีสันด้วยการปรากฏตัวของพริตตี้สาวน้องมาร์ ที่ดึงดูดสายตาของช่างภาพจำนวนมาก นี่คืออีกหนึ่งบูธที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคัก

Suzuki: รุกตลาด Eco Car ในอนาคต

Suzuki ยังคงนำเสนอ SX4 ประกอบอินโดนีเซีย แต่สิ่งที่น่าจับตาคือ การเตรียมรุกเข้าสู่ตลาด Eco Car ในปี 2012 ซึ่งจะชนกับ Mitsubishi โดยตรง

TATA MOTORS: พลังงานไฟฟ้าเพื่ออนาคต

Tata Motors นำเสนอรถต้นแบบพลังงานไฟฟ้า Indica EV แสดงให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาไปสู่พลังงานทางเลือก และการเตรียมพร้อมในการทำตลาด Nano ในประเทศไทย

TOYOTA: ยุคใหม่ของ Hybrid

Toyota นำเสนอ Prius จำนวนมากในบูธ ถือเป็นตัวขายหลักประจำปีนี้ การเป็นรถยนต์ Hybrid รุ่นที่ 2 ที่ผลิตและประกอบในประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นของ Toyota ในการผลักดันเทคโนโลยี Hybrid ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น การยืนยันถึงสมรรถนะการขับขี่ในสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายของไทย เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

VOLVO: ความหรูหรา และเทคโนโลยีความปลอดภัย

Volvo เปิดตัว XC60 D3 CKD และ S60 ใหม่ 2.0T ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในบูธ การนำเสนอรถยนต์ที่หลากหลาย และการมีโมเดลรถยนต์ให้เลือกซื้อ ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับบูธ Volvo

Volkswagen: ความโดดเด่นในแบบของตัวเอง

Volkswagen ยังคงนำเสนอรถยนต์รุ่นเดิมที่ทำตลาดอยู่ แต่ Golf GTI และ Scirocco ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นของ Volkswagen

Super Car: ความตื่นตาตื่นใจจาก Grey Market

ปีนี้ งาน Motor Expo เต็มไปด้วย Super Car จากผู้นำเข้ารายย่อย (Grey Market) อย่าง Ferrari California ที่ดึงดูดสายตาของผู้เข้าชมงานได้อย่างมาก เป็นการสะท้อนถึงความต้องการของตลาด Super Car ที่ยังคงมีอยู่

บทสรุปของ Motor Expo 2010

งานมหกรรมยานยนต์ในปี 2010 ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแสดงนวัตกรรมยานยนต์ล่าสุด แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมุ่งหน้าสู่เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค การที่ผู้จัดแสดงให้ความสำคัญกับการนำเสนอรถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของวงการยานยนต์ไทย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ งานนี้คือโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยีล่าสุด และตัดสินใจจองรถยนต์คันใหม่ที่ตรงใจ ในขณะที่ผมเอง การได้เดินชมงานในบรรยากาศสบายๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนในวงการ ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาไม่ได้จากที่ไหน

หากคุณกำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หรือแค่อยากอัปเดตเทรนด์ยานยนต์ล่าสุด งานมหกรรมยานยนต์ คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด!

เจาะลึก! Mercedes-Benz B-Class: มากกว่าที่ตาเห็น กับประสบการณ์การขับขี่ที่เปลี่ยนความคิด

ย้อนกลับไปช่วงกลางปี 2012 ขณะที่ผมกำลังเตรียมงานรีวิวรถยนต์อยู่ ณ บูธ Mercedes-Benz Thailand ในงาน Bangkok International Motor Show ภาพของ B-Class สีแดงสดในรุ่น B-Class B180 ที่จอดอยู่กลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผมมากนัก ในใจคิดเพียงว่า “นี่คงเป็นรถ Benz แปลกๆ ที่คงไม่มีใครสนใจซื้อ” แต่โชคชะตาก็นำพาสิ่งที่คาดไม่ถึงมาให้

เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณป้อม เยาวเรศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Mercedes-Benz Thailand เพื่อขอยืมรถ SLK มาทำรีวิว แต่ด้วยภาระกิจที่รถต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถนำมาให้ผมได้ จึงมีการเสนอทางเลือกอื่นมาว่า “อืม..เอา B-Class ไปขับไหม?”

จากรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่ง กลายเป็นรถ Minivan 5 ที่นั่ง ขับเคลื่อนล้อหน้าของ Mercedes-Benz! มันคือการพลิกอารมณ์ที่น่าสนใจยิ่งนัก แม้จะรู้สึกขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่คุ้นเคยของ Mercedes-Benz แต่เสียงภายในบอกว่า “นี่คือโอกาสที่จะได้ลองรถ Benz ขับเคลื่อนล้อหน้าที่ไม่ได้มีมาบ่อยๆ!” ผมจึงตอบตกลงทันที พร้อมกับเวลา 3 วัน 2 คืน ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์กับรถคันนี้ และในท้ายที่สุด ผมก็รู้สึกว่าอยากจะขอเวลาเพิ่มอีกสักวัน

B-Class: รถนอกสายตา ที่มาพร้อมความประหลาดใจ

Mercedes-Benz B-Class รหัสตัวถัง W245 ที่ได้มาทดลองขับ อาจดูภายนอกเหมือนรถ Minivan ทรง Tall Boy ทั่วไป แต่ภายใต้รูปลักษณ์นั้น ซ่อนความ “น่าแปลกใจ” ไว้มากมาย มันมีขนาดที่ดูใหญ่ แต่กลับให้ความรู้สึกกะทัดรัด ข้างในกลับกว้างขวางผิดคาด สมรรถนะดีเกินคาด และที่สำคัญคือราคาที่ตั้งไว้ใกล้เคียงกับ C-Class ที่ประกอบในประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่น้อย

วิวัฒนาการของ B-Class: จาก A-Class สู่ Compact Sport Tourer

จุดเริ่มต้นของ B-Class มาจากแนวคิดของ Mercedes-Benz ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ที่ต้องการขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมรูปแบบตัวถังที่หลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากรถสปอร์ตเปิดประทุน รถ Coupe หรือ SUV การเกิดขึ้นของ Mercedes-Benz A-Class ในปี 1997 ซึ่งใช้โครงสร้างวิศวกรรมขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ Sandwich Platform ได้ปูทางไปสู่การพัฒนารถยนต์ในพิกัดที่ใกล้เคียงกัน

แต่กว่าจะมั่นใจในการทำตลาดรถประเภทนี้ Mercedes-Benz ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเปิดตัว B-Class รหัส W245 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มีนาคม 2005 โดยนิยามว่าเป็น “Compact Sport Tourer” ซึ่งแตกต่างจาก Minivan ทั่วไป ด้วยสโลแกน “The Mercedes-Benz, unlike any other” B-Class มาพร้อม 5 ที่นั่งที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวยุคใหม่ และผู้สูงวัยที่มองหารถยนต์ที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย แม้จะมียอดขายรวมกว่า 700,000 คันตลอดอายุตลาด แต่ B-Class รุ่นแรก ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้ลูกค้ายังไม่ประทับใจในแรกเห็น และต้องอาศัยการทดลองขับเพื่อค้นพบคุณค่าที่แท้จริง

B-Class W246: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อความแตกต่าง

เมื่อถึงเวลาการพัฒนา B-Class รุ่นที่ 2 รหัส W246 ทีมออกแบบและวิศวกรของ Mercedes-Benz จึงต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ คือการ “ผ่าตัด” เปลี่ยนแปลง B-Class ให้แตกต่างจาก A-Class อย่างชัดเจน โดยใช้พื้นฐานโครงสร้าง MFA (Mercedes-Benz Front-wheel-drive Architecture) ที่จะใช้ร่วมกับรถยนต์อีก 3 รุ่น การเปลี่ยนแปลงนี้ Dr. Thomas Weber ถึงกับกล่าวว่า “ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ของ Mercedes-Benz ไม่เคยมีรถยนต์รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคันรุ่นใดที่อัดแน่นไปด้วยพัฒนาการใหม่ๆ มากเท่านี้มาก่อน”

ทีมออกแบบภายใต้การดูแลของ Professor h.c. Gorden Wagener ได้สร้างสรรค์เส้นสายที่ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียง Cd 0.26 ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในกลุ่มรถ Minivan 5 ประตูที่ผลิตเพื่อจำหน่ายจริง การติดตั้งโลโก้ Blue Efficiency เป็นการการันตีถึงเทคโนโลยีที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ประหยัดเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การเปิดตัวสู่สายตาชาวโลก และตลาดไทย

Mercedes-Benz เปิดตัว B-Class W246 อย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่งาน Frankfurt Motor Show วันที่ 30 สิงหาคม 2011 โดยในประเทศไทย Mercedes-Benz Thailand ได้นำเข้ามาทำตลาดในรุ่น B180 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถขนาดไม่ใหญ่ ขับง่ายในเมือง และมีห้องโดยสารกว้างขวาง

ไม่นานหลังจากเปิดตัวในยุโรป เพียง 4 เดือน B-Class ใหม่ ก็เดินทางมาถึงประเทศไทย และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motor Show เดือนมีนาคม 2012 โดยเฉพาะรุ่น B200 Blue Efficiency เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-DCT ซึ่งเป็นรุ่น Top of the Line ที่เพิ่งออกสู่ตลาดโลกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2012 แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Mercedes-Benz Thailand

การออกแบบภายนอก: ทันสมัย และเต็มไปด้วยรายละเอียด

B-Class ใหม่ มีมิติที่ยาวขึ้น กว้างขึ้น และเตี้ยลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับรุ่นแรก การออกแบบด้านหน้ายาวขึ้น แนวเส้นสายที่ไหลลื่นจากฝากระโปรงหน้าไปยังเสา A-Pillar ต่อเนื่องถึงหลังคา สร้างความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว (Dynamic) กระจังหน้าสีเงิน 2 ชั้น พร้อมแถบโครเมียม ชุดไฟหน้า Bi-Xenon พร้อม Daytime Running Light แบบ LED การออกแบบชุดไฟท้ายที่ทันสมัย รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการใส่ใจที่ฝาถังน้ำมัน สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด

ภายในห้องโดยสาร: ความสะดวกสบาย และฟังก์ชันการใช้งาน

การเข้า-ออกจากรถทำได้สะดวกสบายด้วยระบบ Keyless Go การออกแบบตำแหน่งเบาะนั่งที่สูง ช่วยให้การขึ้น-ลงรถไม่ติดขัด แผงประตูด้านข้างมีช่องเก็บของที่เพียงพอ พร้อมที่วางแขนที่ออกแบบมาอย่างลงตัว กาบบันไดข้างสลักชื่อยี่ห้อ เพิ่มความหรูหรา

เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTIGO สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ การปรับตำแหน่งที่ใช้เวลาสักครู่ แต่เมื่อได้ตำแหน่งที่ลงตัว จะมอบความสบายในการขับขี่ พื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวาง เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด ปรับระดับสูง-ต่ำได้

ประตูคู่หลังกว้างขวาง ช่วยให้การเข้า-ออกเบาะหลังทำได้สะดวก เบาะหลังออกแบบมาเพื่อความสบาย แต่พนักพิงอาจจะแน่นเล็กน้อย เบาะรองนั่งค่อนข้างสั้น อาจไม่เหมาะกับการเดินทางไกลของผู้ใหญ่ แต่พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางขา ยังคงมีความกว้างขวางเพียงพอ ระบบเข็มขัดนิรภัย 3 จุดทุกที่นั่ง ช่องเสียบปลั๊กไฟ 12V และช่องวางแก้ว ถูกจัดเตรียมไว้อย่างครบครัน เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีขนาด 486 ลิตร (VDA) และสามารถเพิ่มได้ถึง 1,545 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง ชุดปะยางถูกนำมาใช้แทนยางอะไหล่ เพื่อเพิ่มพื้นที่

แผงหน้าปัด และระบบความบันเทิง: เน้นการใช้งาน และความทันสมัย

แผงหน้าปัดออกแบบให้ดูสปอร์ต ใช้งานง่าย มาตรวัดความเร็วแสดงข้อมูลชัดเจน จอแสดงข้อมูล Multi Information Display แสดงข้อมูลต่างๆ อย่างครบถ้วน รวมถึงระบบเครื่องเสียง MB Audio 20 ที่รองรับ CD/MP3/WMA พร้อมช่องต่อ AUX และ USB การควบคุมระบบต่างๆ ทำได้จากสวิตช์บนพวงมาลัย และระบบ COMMAND ที่อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้

ความปลอดภัย: มาตรฐานสูงสุดตามแบบฉบับ Mercedes-Benz

B-Class ใหม่ มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้ง ESP, ABS, BAS, ASR, ระบบเตือนลมยาง, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบ Adaptive Brake Light นอกจากนี้ ระบบ PRE-SAFE ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารก่อนเกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชน ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญ โครงสร้างตัวถังนิรภัยที่ใช้เหล็ก High-Tensile และ Ultra High Tensile ในสัดส่วนที่สูง ทำให้ B-Class ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP ระดับ 5 ดาว

วิศวกรรม และสมรรถนะ: ความลงตัวที่คาดไม่ถึง

B200 Blue Efficiency ใช้เครื่องยนต์ M270 เบนซิน 1.6 ลิตร Turbo 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-DCT ซึ่งเป็นเกียร์คลัชต์คู่ขนาดกะทัดรัด การย้ายตำแหน่งคันเกียร์มาอยู่ที่ก้านสวิตช์บนคอพวงมาลัย ถือเป็นจุดที่ต้องใช้ความคุ้นเคย เพื่อป้องกันการสับสนกับการทำงานของไฟเลี้ยว

ในการทดสอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้เฉลี่ย 9.58 วินาที และอัตราเร่งแซง 80-120 กม./ชม. อยู่ที่ 7.42 วินาที ซึ่งถือว่าน่าประทับใจสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ สมรรถนะในช่วงรอบกลาง (3,000-5,000 รอบ/นาที) ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม การเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดีเยี่ยม แม้จะใช้ความเร็วสูง

ระบบบังคับเลี้ยว และช่วงล่าง: ความสบาย และความมั่นใจ

พวงมาลัยแบบ Speed-Sensitive ให้ความคล่องแคล่วในการขับขี่ในเมือง และความมั่นคงที่ความเร็วสูง รัศมีวงเลี้ยวแคบ ทำให้การกลับรถทำได้สะดวก ระบบกันสะเทือนแบบ Comfort เน้นความนุ่มนวล แต่ยังคงให้ความมั่นใจในการเข้าโค้ง การทำงานของช่วงล่าง โดยรวมถือว่าลงตัว แม้ว่ายาง Bridgestone Turanza T001 อาจมีส่วนทำให้รู้สึกสะเทือนจากพื้นถนนบ้าง

การทดลองหาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: ตัวเลขที่เหนือความคาดหมาย

ในการทดสอบการขับขี่บนเส้นทางปกติ (110 กม./ชม. เปิดแอร์ นั่ง 2 คน) B200 Blue Efficiency ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยได้ถึง 16.31 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากน้ำหนักตัวรถ และสมรรถนะที่ได้รับ

สรุป: ทางเลือกที่ “แปลก” แต่ “ใช่”

Mercedes-Benz B-Class B200 Blue Efficiency คือรถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประหลาดใจ มันอาจไม่ใช่รถ Benz แบบดั้งเดิมที่หลายคนคุ้นเคย แต่ความใส่ใจในรายละเอียด การออกแบบที่ลู่ลม สมรรถนะที่ดีเยี่ยม ความประหยัดน้ำมันที่เหนือความคาดหมาย และความสบายในการขับขี่ ทำให้ B-Class เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่มองหารถยนต์ Benz ที่มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว

หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่แตกต่าง โดดเด่น และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจ Mercedes-Benz B-Class คือคำตอบที่คุณควรพิจารณา

พร้อมแล้วหรือยังที่จะเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ๆ?

ลองสัมผัส Mercedes-Benz B-Class ด้วยตัวคุณเอง ณ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการวันนี้ เพื่อค้นพบว่า รถยนต์คันนี้สามารถเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อรถยนต์ประเภท Compact Sport Tourer ได้อย่างไร!

Previous Post

N0201065 จากน อยได เป นหลวง ทำมาหวงก าง part2

Next Post

N0201074 เพ อนร กเห นเเก part2

Next Post
N0201074 เพ อนร กเห นเเก part2

N0201074 เพ อนร กเห นเเก part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0101001 ณหมอแอบแซบก บพยาบาล งๆท เขาก แฟนเป นพยาบาลเหม อนก part2
  • N0101017 แม านก บค ณนายม แฟนเป นคนเด ยวก แบบน จะทำไงต part2
  • N0101007 ให พน กงานใส แพมเพ สทำงาน และห ามใครไปเข าห องน part2
  • N0101015 กโทษหญ งหน ดวงซวยด นไปฉ หล งรถตำรวจ แต เธอขอไปเจอคนๆน part2
  • N0101006 ชายคนน เส ยความทรงจำ จนเขาไม าสองคนน ใครค อแฟนของเขา part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.