• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0201017 คนท นตรายท อคนท เราไว ใจและใกล วเราท part2

admin79 by admin79
December 30, 2025
in Uncategorized
0
N0201017 คนท นตรายท อคนท เราไว ใจและใกล วเราท part2

สัมผัสประสบการณ์ยนตรกรรมสุดยอด: ภาพรวมงานมหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี

สวัสดีครับ ท่านผู้ชื่นชอบยานยนต์ทุกท่าน ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมขอพาเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของงานมหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงศักยภาพของค่ายรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางและการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ไทยและระดับภูมิภาคได้อย่างน่าสนใจ

ด้วยแนวคิด “Enjoyment of Automobiles – สุนทรียภาพแห่งยนตรกรรม” งานนี้ได้ฉีกกรอบแนวคิดดั้งเดิมที่มักเน้นเรื่องพลังงานทางเลือกหรือเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ แต่กลับหันมาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างมนุษย์กับรถยนต์คู่ใจ การได้มาซึ่งรถที่ “ใช่” การเป็นเจ้าของรถที่ “ชอบ” และการได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความสุขและเพลิดเพลิน แนวคิดนี้จึงเป็นการตอกย้ำว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปเพียงใด หัวใจหลักของการซื้อรถยนต์ก็ยังคงอยู่ที่อารมณ์ความรู้สึกและการตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

ครอบคลุมพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร และการผนึกกำลังของ 30 ค่ายรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก งานนี้ได้กลายเป็นเวทีสำคัญในการเผยโฉมยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงรุ่นที่ยังไม่เคยเปิดตัวต่อสาธารณชนชาวไทยมาก่อน สร้างปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองสำหรับผู้บริโภคและผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์

เจาะลึกไฮไลท์เด่น: นวัตกรรมและความหรูหราที่ต้องสัมผัส

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอสรุปไฮไลท์สำคัญที่ทำให้งานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้มีความพิเศษและน่าประทับใจ ดังนี้

Aston Martin: ความสง่างามเหนือกาลเวลา ผสานสมรรถนะสุดขีด

Aston Martin Bangkok ภายใต้การดูแลของ MGC-Asia ได้นำทัพยนตรกรรมสุดหรูมาจัดแสดงอย่างน่าเกรงขาม ตั้งแต่ Aston Martin Rapide ซาลูนสี่ประตูที่สะท้อนเส้นสายแห่งซูเปอร์คาร์, Aston Martin Vanquish V12 รถสปอร์ตขุมพลังไร้เทอร์โบในตำนาน, Aston Martin V8 Vantage ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 510 แรงม้า และ Aston Martin DB11 สปอร์ตแกรนด์ทัวริ่งที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 Twin-Turbo 608 แรงม้า และทางเลือก V8 4.0 ลิตร

แต่ที่สร้างความฮือฮาได้อย่างแท้จริง คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ DBS Superleggera รถสปอร์ตคูเป้ที่มาพร้อมชื่ออันทรงเกียรติ ซึ่งอ้างอิงถึงบริษัท Carrozzeria Touring Superleggera ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างตัวถังน้ำหนักเบาจากอิตาลี DBS Superleggera ใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับ DB11 แต่ด้วยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพิ่มเติม โดยเฉพาะหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ตัวรถเบาลงถึง 70 กิโลกรัม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 Twin-Turbo 5.2 ลิตร (รหัส AE31) ที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มกำลังเป็น 715 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ ZF 8 จังหวะที่ติดตั้งอยู่ท้ายรถ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 340 กม./ชม.

นอกจากนี้ ยังมี Aston Martin Valkyrie AMR Pro จอดตระหง่านอยู่ ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งยนตรกรรมไฮเปอร์คาร์ที่ตีราคาประเมินไว้สูงถึง 300 ล้านบาท นี่ไม่ใช่เพียงรถยนต์ แต่คือผลลัพธ์ของการผสมผสานมันสมองของ Aston Martin, Red Bull Racing, Cosworth, Rimac และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย โดยมี Marek Reichman ผู้ได้รับการยกย่องในด้านการออกแบบตัวถัง ผนึกกำลังกับ Adrian Newey วิศวกร F1 ระดับตำนาน เครื่องยนต์ V12 สูบ 6.5 ลิตร พร้อมระบบ KERS แบบ F1 จาก Rimac สามารถให้กำลังสูงสุดกว่า 1,100 แรงม้า และมีเรดไลน์สูงถึง 11,000 รอบ/นาที ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 1.1 ตัน ยิ่งไปกว่านั้น Valkyrie AMR Pro ถูกสร้างมาเพื่อลงสนามแข่งโดยเฉพาะ ไม่สามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้ มีการถอดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางส่วนออก และติดตั้งชุดแข่งเต็มรูปแบบ สามารถรับแรง G ในโค้งได้ถึง 3.3G และทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 360 กม./ชม. การที่รถคันนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากจนขายหมดไปก่อนงานเปิดตัว ยิ่งตอกย้ำถึงสถานะของมันในฐานะยนตรกรรมสุดพิเศษที่มีจำนวนจำกัดเพียง 25 คันทั่วโลก

Audi: เทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

Meister Technik ได้นำเสนอไลน์อัพที่หลากหลาย โดยเฉพาะ Audi R8 ในราคา 18.99 ล้านบาท, ตระกูล Avant อย่าง A4 และ A6 ที่ยกระดับรถสเตชั่นแวก้อนให้กลายเป็นไอเท็มสุดชิค, รวมถึง SUV ตระกูล Q อย่าง Q7 และ Q8 ที่มาพร้อมดีไซน์หรูหราและขุมพลังที่ตอบโจทย์

ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว Audi A7 Sportback 45TFSI quattro ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 245 แรงม้า มาพร้อมเทคโนโลยี quattro all-wheel drive ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิม การมาของรุ่นนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อตลาดรถยนต์พรีเมียมคูเป้ 4 ประตูหลังคาเตี้ย ซึ่ง Audi ต้องการแข่งขันโดยตรงกับแบรนด์อื่นในเซกเมนต์นี้

อีกรุ่นที่น่าจับตาคือ Audi TT Minorchange ซึ่งเป็นรถที่ขายดีที่สุดของ Audi ในประเทศไทย การปรับปรุงในครั้งนี้ครอบคลุมทั้งกระจังหน้า, กันชนหน้า-หลัง, ชุดแต่ง S-Line ดีไซน์ใหม่ พร้อมออปชันเพิ่มเติม เช่น ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร, เซ็นเซอร์หน้า-หลัง และกล้องมองหลัง ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 230 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ S-tronic 6 จังหวะ

ที่น่าประหลาดใจคือการปรากฏตัวของ Audi e-tron รถยนต์พลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่วางจำหน่ายจริงของ Audi การมาของ e-tron ในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า Audi พร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า-หลัง ให้กำลัง 360 แรงม้า (สูงสุด 408 แรงม้าในโหมด Sport) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที แม้จะดูไม่เร็วเท่าคู่แข่งบางราย แต่ขนาดตัวของ e-tron นั้นใหญ่กว่า Q5 และใกล้เคียง Q7 ด้วยความยาว 4.9 เมตร แบตเตอรี่ขนาด 95 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 417 กม. (WLTP) จุดเด่นคือการออกแบบห้องโดยสารที่ล้ำสมัย พร้อมจอ Virtual Cockpit และจอสัมผัสที่ควบคุมการทำงานได้อย่างสะดวก

Bentley: เฉลิมฉลอง 100 ปีแห่งตำนาน ความหรูหราและสมรรถนะที่ไม่เป็นรองใคร

Bentley เลือกใช้เวทีงานนี้ในการเปิดตัว New Continental GT Convertible W12 พร้อมกันนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์อย่างสมเกียรติ รถเปิดประทุนระดับหรูคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W12 6.0 ลิตร ให้กำลัง 635 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. กลไกหลังคาผ้าใบได้รับการปรับปรุงให้เปิด-ปิดได้ใน 19 วินาทีที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ภายในได้รับการออกแบบให้มอบความสบายสูงสุด พร้อมด้วยช่องอุ่นคอแบบใหม่, ระบบทำความร้อนที่พวงมาลัย, เบาะ และที่พักแขน และไฮไลท์คือ Bentley Rotating Display หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถหมุนสลับการแสดงผลระหว่างหน้าจอ, มาตรวัดแบบคลาสสิก หรือลายไม้สุดหรู ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ 23.8 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมี Continental GT W12 ราคา 22.1 ล้านบาท และ Bentayga Petrol V8 SUV สุดหรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร Twin-Turbo 550 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม. แม้จะมีน้ำหนักถึง 2,388 กก. ก็ตาม

BMW/MINI: ความสปอร์ต หรูหรา และเอกลักษณ์เฉพาะตัว

BMW นำเสนอรถครบครันในไลน์อัพปกติ โดยมี BMW M หลากหลายรุ่น ตั้งแต่ M2 Competition, M4 CS ไปจนถึง M5 แต่รุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงานคือ BMW X7 M50d รถ SUV ขนาดใหญ่ที่สุดของ BMW มาพร้อมกระจังหน้าคู่ขนาดใหญ่, ไฟหน้า BMW Laserlight และล้อ BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ภายในตกแต่งหรูหรา รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะทุกตัวปรับไฟฟ้า หุ้มหนังแท้ Merino เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ M Performance TwinPower Turbo 400 แรงม้า ให้แรงบิด 760 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับช่วงล่าง Executive Drive Pro ราคา 8.99 ล้านบาท

อีกรุ่นที่น่าจับตาคือ BMW Z4 โรดสเตอร์ 2 ที่นั่งรุ่นใหม่ ที่เปลี่ยนมาใช้หลังคาผ้าใบเพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย: sDrive30i เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 258 แรงม้า ราคา 3.99 ล้านบาท และ M40i เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ 340 แรงม้า พร้อมช่วงล่าง Adaptive M Suspension, เบรก M Sport ในราคา 4.99 ล้านบาท

BMW 330i (G20) ซีรีส์ 3 ใหม่ ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น แม้ขนาดตัวจะใหญ่ขึ้น แต่การใช้วัสดุผสมและอะลูมิเนียมทำให้น้ำหนักเบาลง 55 กก. ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศลดลงเหลือ 0.26 ด้วยระบบ Active Air Flap ในล็อตแรกจะนำเข้าทั้งคัน โดยมีรุ่น 320d Sport ราคา 2.959 ล้านบาท และ 330i M Sport ราคา 3.359 ล้านบาท

ในส่วนของ MINI, MINI Cooper S 60 Years Edition ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของแบรนด์ มาพร้อมการตกแต่งสี British Racing Green ตัดกับหลังคาและกระจกมองข้างสี Pepper White พร้อมสัญลักษณ์ 60 ปี และไฟท้าย LED ลายธงอังกฤษ ภายในตกแต่งด้วยเบาะ MINI Yours Leather Lounge 60 Years สี Dark Maroon และโลโก้ 60 ปี ราคา 3 รุ่นย่อย: 3 ประตู 2.9 ล้านบาท, 5 ประตู 2.94 ล้านบาท โดยมีโควตาจำนวนจำกัดเพียง 17 คันสำหรับประเทศไทย

Chevrolet: ทิศทางใหม่ สู่ผู้นำตลาด SUV และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

Chevrolet ประเทศไทย ได้ประกาศทิศทางใหม่ในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาดรถกระบะ, SUV/PPV/ครอสโอเวอร์ และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยก้าวแรกคือการเปิดตัว Chevrolet Captiva โฉมใหม่ ซึ่งจะปรับตำแหน่งทางการตลาดมาแข่งขันในกลุ่ม B/C-SUV โดยมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท Captiva ใหม่นี้จะมีความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่นพี่ร่วมแพลตฟอร์มอย่าง Baojun 530 จะมีให้เลือกทั้งแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง พร้อมหลังคา Panoramic Panoramic คาดการณ์ราคาขายอยู่ในช่วง 9 แสนปลาย ถึง 1.3 ล้านบาท โดยพร้อมจำหน่ายจริงในช่วงครึ่งหลังของปี

Ford: ยนตรกรรมแกร่งพันธุ์อึด พร้อมเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่

Ford Ranger Raptor ยังคงเป็นดาวเด่นของบูธ ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซล Compound Turbo 213 แรงม้า, เกียร์ 10 สปีด, โช้คอัพ Fox Racing Shox, ระบบ Terrain Management System พร้อมโหมด Baja และ Diff-lock หลังไฟฟ้า แม้จะเน้นสมรรถนะมากกว่าความหรูหรา แต่ Raptor ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะพันธุ์แกร่ง พร้อมด้วย Ranger รุ่นตกแต่งพิเศษ และ Everest ที่มาในสไตล์ดุดัน Mustang รุ่นปรับปรุงสำหรับปี 2019 ก็มีการเพิ่มสปอยเลอร์หลังในรุ่น 2.3 ลิตร

Honda: All-new Honda Accord ก้าวข้ามสู่ยุคใหม่

Honda เปิดตัว All-new Honda Accord เจเนอเรชั่นที่ 10 อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า 1 รุ่น และขุมพลัง Hybrid 2.0 ลิตร Atkinson Cycle + มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 215 แรงม้าอีก 2 รุ่น ดีไซน์ภายนอกดูทันสมัยและล้ำยุคกว่า Civic โดยเฉพาะไฟท้ายที่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เน้นความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นไม่เกิน 1.5 ล้านบาทสำหรับรุ่นเทอร์โบ และไม่เกิน 1.8 ล้านบาทสำหรับรุ่น Hybrid TECH

Hyundai: ความฉับไวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

Hyundai สร้างความประหลาดใจด้วยการนำ KONA electric มาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการอย่างรวดเร็ว หลังจากการเปิดตัวในงาน Motor Expo 2018 โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย: SE (1.849 ล้านบาท) มอเตอร์ 136 แรงม้า, แบตเตอรี่ 39.2 kWh วิ่งได้ 312 กม. (WLTP) และ SEL (2.259 ล้านบาท) มอเตอร์ 204 แรงม้า, แบตเตอรี่ 64 kWh วิ่งได้ 482 กม. (WLTP) KONA electric มาพร้อมออปชันที่ครบครัน และมีความโดดเด่นด้านการออกแบบสไตล์ครอสโอเวอร์ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ Hyundai H-1 รุ่นพิเศษ Limited III สีขาวมุก ผลิตจำนวนจำกัด 300 คัน มาพร้อมออปชันที่เหนือกว่ารุ่น Elite และ Touring เช่น หลังคามูนรูฟคู่, ล้อ 17 นิ้ว, ภายในสีเทา-ลายไม้, ระบบ Cruise Control, Ambient Light, จอ 7 นิ้ว และจอหลังเบาะ 10.1 นิ้ว

Isuzu: ยนตรกรรมที่มาพร้อมชุดแต่งสุดเข้ม

Isuzu นำเสนอ MU-X The Onyx รุ่นพิเศษที่เพิ่มความหรูหราด้วยสีแดง Etna Red, กระจังหน้าและกันชนดีไซน์ใหม่, ล้อ 18 นิ้ว Flash Black Design, ซุ้มล้อและบันไดข้างสีดำด้าน, ไฟท้ายรมดำ ภายในมี Ambient Light สีแดง, ถุงลมนิรภัย 6 ใบ และระบบ BOS-Brake Override System ราคา 1.364 ล้านบาท (1.9 ลิตร) และ 1.409 ล้านบาท (3.0 ลิตร)

นอกจากนี้ ยังมี D-Max V-Cross Max 4×4 ที่แต่งสไตล์ออฟโรด พร้อมชุดแต่ง ARB รอบคัน และ D-Max 1.9 ลิตร ที่ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีกำลังสูงถึง 350 แรงม้า สำหรับการแข่งขัน

Jaguar/Land Rover: ก้าวสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าเต็มตัว

Jaguar/Land Rover โดย Inchcape ได้ปรับราคารถยนต์หลายรุ่นให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น โดยเฉพาะ Jaguar E-Pace ที่ลดราคาเหลือ 3.299 ล้านบาท และ Land Rover Discovery Sport เหลือ 3.199 ล้านบาท ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว Jaguar I-PACE รถ SUV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของค่าย มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 90 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวม 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 470 กม. มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 5.499 ล้านบาท โดยมีโควตาปี 2019 เพียง 12 คัน

Kia: ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ลงตัว

Kia นำเสนอ Grand Carnival MPV ยอดนิยมใน 3 รุ่นย่อย พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร 197 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ รุ่น LX ราคา 1.622 ล้านบาท, EX ราคา 1.991 ล้านบาท และ SXL ราคา 2.292 ล้านบาท รุ่น SXL ที่เป็นรุ่นท็อปมาพร้อมซันรูฟคู่, หน้าปัด TFT, ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา, เบาะไฟฟ้าพร้อมระบบความจำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย

Lamborghini: สุดยอดแห่งซูเปอร์คาร์ ความแรงที่ไร้ขีดจำกัด

Lamborghini นำโดย Huracan EVO ที่มาทำตลาดแทน Huracan LP610-4 Coupe เดิม ใช้เครื่องยนต์ V10 5.2 ลิตร 640 แรงม้า มาพร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนอัจฉริยะ LDVI (Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata) ซึ่งสามารถประมวลผลและปรับการทำงานของระบบต่างๆ เพื่อการตอบสนองที่เหนือชั้น ราคาเริ่มต้น 24.59 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมี Aventador SVJ ที่สร้างสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในสนาม Nurburgring ด้วยเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร 770 แรงม้า ราคา 44.5 ล้านบาท และ Urus SUV คันแรกของค่าย มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo 4.0 ลิตร 650 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที ราคาเริ่มต้น 23.42 ล้านบาท

Maserati: ความสง่างามสไตล์อิตาเลียน

Maserati นำเสนอ GranTurismo MY2019 ยนตรกรรมดีไซน์โดย Pininfarina ใช้เครื่องยนต์ V8 4.7 ลิตร 460 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ZF ราคา 14.99 ล้านบาท

New Quattroporte รถซีดานประจำตำแหน่งประธานาธิบดีอิตาลี มาพร้อมไฟหน้า Adaptive Matrix LED และเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo 3.8 ลิตร 530 แรงม้า (รุ่น GTS) สามารถทำความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม.

Levante Vulcano Limited Edition SUV รุ่นพิเศษ ผลิตจำกัด 150 คันทั่วโลก มาพร้อมตัวถังสีเทาด้าน Grigio Lava, ชุดแต่ง Nerrissimo Pack, ล้อ Helios 21 นิ้ว และภายในที่หุ้มด้วยหนัง Pieno Fiore พร้อมโลโก้ “One of 150” เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin-Turbo 350 แรงม้า

Mazda: วิสัยทัศน์แห่งอนาคต และการออกแบบที่โดดเด่น

Mazda นำเสนอ MAZDA KAI CONCEPT รถต้นแบบที่สะท้อนวิสัยทัศน์การออกแบบ KODO Ver 2.0 พร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV-G และ SKYACTIV-X ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศ (SPCCI) เป็นครั้งแรกของโลก

CX-3 Exclusive MODS รุ่นพิเศษที่เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น เบาะหนัง Nappa สีแดงเข้ม, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบความจำ, รองรับ Apple CarPlay/Android Auto และล้อ 18 นิ้ว ราคา 1.11 ล้านบาท

McLaren: ซูเปอร์คาร์เปิดประทุนสุดเร้าใจ

Niche Cars ตัวแทนจำหน่าย McLaren ได้เปิดตัว McLaren 720S Spider เวอร์ชั่นเปิดประทุนของ Super Series 720S ใช้เครื่องยนต์ M840T V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 720 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 341 กม./ชม. กลไกหลังคาเปิด-ปิดได้ใน 11 วินาที น้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียง 45 กก. จากรุ่นหลังคาแข็ง ราคาเริ่มต้น 29.5 ล้านบาท

Mercedes-Benz: นวัตกรรมปลั๊กอินไฮบริด และสมรรถนะ AMG

Mercedes-Benz นำเสนอ S 560 e AMG Premium รถยนต์พลังงานไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin-Turbo 367 แรงม้า ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า ให้กำลังรวม 476 แรงม้า ราคา 6.99 ล้านบาท

ในส่วนของ Mercedes-AMG ได้เปิดตัว E 53 4MATIC+ Coupe และ CLS 53 4MATIC+ ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง M256 ใหม่ พร้อมระบบไฟฟ้า 48V และ EQ Boost ให้กำลังสูงสุด 435 แรงม้า CLS 53 ประกอบในประเทศ ราคา 5.35 ล้านบาท ส่วน E 53 Coupe นำเข้า ราคา 6.99 ล้านบาท

MG: ก้าวสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและรถตู้

MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ MG ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยในปีนี้ ใช้มอเตอร์ 150 แรงม้า วิ่งได้ไกล 335 กม. (NEDC) จุดเด่นคือดีไซน์ที่ปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า

MG V80 รถตู้ขนาดใหญ่ 11 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร 136 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา (988,000 บาท) และเกียร์ SELEMATIC (1.038 ล้านบาท)

Mitsubishi: วิสัยทัศน์แห่งอนาคต และกระบะพันธุ์แกร่ง

Mitsubishi นำเสนอรถต้นแบบ e-Evolution ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ในอนาคตของแบรนด์ ซึ่งมุ่งเน้น SUV, Crossover และพลังงานไฟฟ้า มาพร้อมมอเตอร์ 3 ตัว, ระบบ AYC และ AI ที่สามารถเรียนรู้และโต้ตอบกับผู้ขับขี่

Triton Absolute กระบะแต่งสไตล์ออฟโรด พร้อมยาง Mud Terrain, กันชนหน้า ARB, โช้คอัพยกสูง 50 มม. เป็นรถต้นแบบที่รอการตอบรับจากลูกค้า หากได้รับกระแสตอบรับที่ดี อาจมีการผลิตจำนวนจำกัด

Nissan: เทคโนโลยี Intelligent Mobility

Nissan X-Trail Minorchange ที่เพิ่งเปิดตัวไป มาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ เช่น Intelligent Cruise Control, Intelligent Around View Monitor และ Intelligent Emergency Braking

Navara Black Edition II กระบะที่มาพร้อมชุดแต่งรอบคันดีไซน์ใหม่, ล้อ 18 นิ้ว, ระบบ Cruise Control, Around View Monitor และ Nissan Connect ที่รองรับ Apple CarPlay/Android Auto

Porsche: ตำนาน 911 สู่เจนเนอเรชั่นใหม่

AAS Auto Service นำเสนอ All-New Porsche 911 (992) เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย รุ่น Carrera S ราคาเริ่มต้น 12.15 ล้านบาท และ Carrera 4S ราคา 12.85 ล้านบาท มาพร้อมการพัฒนาทางเทคนิคหลายส่วน เช่น หน้าจอสัมผัส 10.9 นิ้ว, ระบบเกียร์ PDK 8 จังหวะ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Wet mode

911 GT3RS รถเวอร์ชั่นไร้เทอร์โบที่ร้ายกาจที่สุด พร้อมเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร 520 แรงม้า สามารถทำเวลาต่อรอบ Nurburgring ได้ต่ำกว่า 7 นาที

Rolls-Royce: อัครมหายานยนต์แห่งความหรูหรา

Rolls-Royce Phantom รุ่นที่ 8 มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 Twin-Turbo 6.75 ลิตร 563 แรงม้า มีให้เลือก 2 แบบ คือฐานล้อปกติ (5.762 ม.) และฐานล้อยาว (5.982 ม.) ราคาเริ่มต้น 53.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมี Ghost, Wraith Black Badge, Dawn และ Cullinan Supreme Liberty SUV คันแรกของค่าย ที่แสดงถึงความหรูหราและงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce

Subaru: เอกลักษณ์ที่โดดเด่น

Subaru XV GT Edition ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษจาก Giken และ มร. มาซาฮิโกะ โกบายาชิ มาพร้อมสเกิร์ตหน้า-ข้าง, สปอยเลอร์หลังคา, ชายกันชนหลัง และล้ออัลลอย 17 หรือ 18 นิ้ว ราคา 1.338 ล้านบาท (17 นิ้ว) และ 1.358 ล้านบาท (18 นิ้ว)

Suzuki: รถจี๊ปในตำนาน และ MPV อเนกประสงค์

Suzuki Jimny รถจี๊ปขนาดเล็ก ขวัญใจสายลุย นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 102 แรงม้า ราคา 1.55 ล้านบาท (เกียร์ธรรมดา) และ 1.65 ล้านบาท (เกียร์อัตโนมัติ) แม้ราคาจะสูง แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

Suzuki Ertiga 2019 MPV ที่ใช้โครงสร้าง HEARTECT เช่นเดียวกับ Swift มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ราคาเริ่มต้น 695,000 บาท

Toyota/Lexus: ตำนาน Supra คืนชีพ และรถยนต์อเนกประสงค์

Toyota Supra A90 รถสปอร์ตในตำนาน ที่กลับมาสานต่อความสำเร็จร่วมกับ BMW โดยใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน คาดว่าจะทำตลาดในประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้

Toyota Commuter ใหม่ รถตู้โดยสารขนาดใหญ่ ยาว 5.915 มม. กว้าง 1.950 มม. ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร VN-Turbo 177 แรงม้า จะพร้อมจำหน่ายช่วงกลางปี

Lexus UX250h Hybrid ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่เน้นความเรียบง่าย ล้ำสมัย และการออกแบบตามแนวคิดของคุณ Chika Kako วิศวกรโครงการ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atkinson Cycle Hybrid ให้กำลังรวม 184 แรงม้า มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท

Volvo: ความปลอดภัยเหนือระดับ และทางเลือกเบนซิน

Volvo นำเสนอรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง และระบบ Pilot Assist ที่สามารถขับขี่กึ่งอัตโนมัติได้

Volvo XC40 ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าหรือดีเซล มาพร้อมเครื่องยนต์ T4 Momentum 190 แรงม้า และ T5 R-Design 252 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท

สรุป: ยนตรกรรมแห่งอนาคต ณ ปัจจุบัน

งานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี, นวัตกรรมในการออกแบบ, และความมุ่งมั่นของค่ายรถยนต์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นความหรูหรา, สมรรถนะที่เร้าใจ, ความสะดวกสบาย, หรือการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทุกแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์และทีเด็ดมานำเสนออย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างยอดขาย

สำหรับท่านที่พลาดโอกาสในการเยี่ยมชมงาน ผมขอแนะนำให้ติดตามข่าวสารจากผู้จัดจำหน่ายแต่ละแบรนด์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหลายรุ่นที่จัดแสดงนี้ กำลังจะเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ การได้สัมผัสประสบการณ์จริงของยนตรกรรมเหล่านี้ อาจเป็นการตัดสินใจที่สำคัญในการเลือกคู่หูเดินทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ

หากท่านกำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หรือต้องการอัปเดตเทรนด์ล่าสุดในวงการยานยนต์ ผมขอเชิญชวนให้ท่านลองพิจารณาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้นำเสนอในบทความนี้ และหากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่ง หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อผมหรือทีมงานของเรา เราพร้อมที่จะให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ท่านได้พบกับยนตรกรรมที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ.

Previous Post

N0201010 ไม เง นจ ายค าเช าร าน เพราะเขาม กน ยแปลกๆ part2

Next Post

N0201023 ดไม แบ งเซอร สชาร จให กน องส กบาท ดท ายงานเข พน กงานออกยกท part2

Next Post
N0201023 ดไม แบ งเซอร สชาร จให กน องส กบาท ดท ายงานเข พน กงานออกยกท part2

N0201023 ดไม แบ งเซอร สชาร จให กน องส กบาท ดท ายงานเข พน กงานออกยกท part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0201042 ญค ณท เคยได ตอบกล บด วยส งท part2
  • N0201053 วใจท กส นคลอน เพราะเค กช นน part2
  • N0201037 เส ยงเต อนจากคนแปลกหน part2
  • N0201041 กามเทพต วน อย ตามมาคอยส อร part2
  • N0201051 ปากด แต เร อง part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.