Porsche: สู่ยุคใหม่แห่งความหรูหราและสมรรถนะ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียมในประเทศไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่ยืนหยัดอยู่ในแถวหน้าอย่าง Porsche ที่ไม่เพียงแต่รักษาตำแหน่งผู้นำด้านสมรรถนะและความหรูหรา แต่ยังปรับตัวเข้ากับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างน่าทึ่ง ปี 2021 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองของ Porsche ประเทศไทย ด้วยยอดจำหน่ายที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 1,500 คัน ซึ่งกว่า 70% ของยอดขายนี้ มาจากรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์อย่าง Porsche Cayenne Hybrid ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่สถิติที่น่าประทับใจ แต่เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่ก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ
Porsche ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นมากกว่าแบรนด์ซูเปอร์คาร์ในอดีต แต่ได้พัฒนามาเป็นผู้ผลิตยานยนต์ระดับ High-end ที่เข้าใจตลาดไทยอย่างแท้จริง ความสามารถในการนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ควบคู่ไปกับการปรับกลยุทธ์ให้เข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้ Porsche กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยและเป็นที่ปรารถนาของผู้บริโภคชาวไทย ส่งผลให้แบรนด์นี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ที่ก้าวล้ำ
การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ: Porsche ไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นความจริงที่เข้าถึงได้
คุณเพเทร์ โรห์เวร์ กรรมการผู้จัดการ Porsche ประเทศไทย ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการของแบรนด์ Porsche ในประเทศไทย ท่านกล่าวว่า ในอดีต Porsche อาจถูกมองว่าเป็นรถสปอร์ตที่มีราคาสูงเกินเอื้อม แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างระบบขับเคลื่อนไฮบริดและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ประกอบกับนโยบายภาษีที่เอื้ออำนวย รวมถึงการปรับปรุงทางด้านเครื่องยนต์ เช่น การจำกัดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3 ลิตร ได้ช่วยลดราคาจำหน่ายลงอย่างมีนัยยะ ทำให้ Porsche สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น
ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Porsche ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นหนึ่งในตลาดชั้นนำระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่น Porsche Cayenne Hybrid ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แม้ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตการณ์ COVID-19 และปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ Porsche ก็ยังคงสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งไว้ได้ โดยมียอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 11% ในปีที่ผ่านมา และยอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 51% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลตอบรับอันยอดเยี่ยมของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า Porsche Taycan
กลยุทธ์การผลิตในภูมิภาค: กุญแจสำคัญสู่การเติบโตที่ยั่งยืน
Porsche ได้ตระหนักถึงศักยภาพของตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง การเริ่มต้นสายการผลิต Porsche Cayenne ในประเทศมาเลเซีย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับลดราคาจำหน่ายลงถึง 30% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนในภูมิภาคนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองฐานลูกค้าที่กำลังเติบโต แต่ยังเป็นการมองหาโอกาสในการลงทุนในแหล่งทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต
ภาพลักษณ์ใหม่ของลูกค้า Porsche: วัยหนุ่มสาวที่หลากหลายและมีรสนิยม
คุณเพเทร์ โรห์เวร์ ยังได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้า Porsche ในประเทศไทย ท่านระบุว่า กลุ่มลูกค้า Porsche มีอายุน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จากค่าเฉลี่ยอายุ 55 ปีในอดีต ลดลงมาอยู่ที่ 42 ปีในปัจจุบัน และที่น่าประหลาดใจคือ กว่า 35% ของผู้มีอำนาจตัดสินใจซื้อเป็นผู้หญิง นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่บ่งชี้ว่า Porsche สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่มองหารถยนต์ที่ไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงความสำเร็จ แต่ยังสะท้อนถึงสไตล์และภาพลักษณ์ที่ทันสมัย
สิ่งนี้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนจากการตอบรับอันล้นหลามภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” หรือ Thailand International Motor Expo 2022 ซึ่งบูธ Porsche ได้รับความสนใจอย่างมหาศาล มีรถยนต์ Porsche ถึง 11 คัน ครอบคลุมทุกรุ่น จัดแสดงและพร้อมจำหน่าย แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาด
Porsche Pre-Owned Cars: ประตูสู่โลกแห่งสมรรถนะและความหรูหรา
สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ Porsche คันแรก แต่ยังไม่พร้อมลงทุนกับรถใหม่ โรห์เวร์ได้ชี้ให้เห็นถึงทางเลือกอันชาญฉลาด นั่นคือรถยนต์มือสองจาก Porsche Pre-Owned Cars ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ท่านยังแนะนำรุ่นที่น่าสนใจ เช่น Macan หรือ Cayenne และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตอย่างแท้จริง รุ่น 718 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดหากมีกำลังซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม
สิ่งที่ Porsche Pre-Owned Cars นำเสนอ ไม่ใช่แค่รถยนต์สภาพดี แต่คือ “ใบเบิกทาง” เข้าสู่โลกแห่ง Porsche อย่างแท้จริง ด้วยการรับประกันที่ยาวนานถึง 15 ปี จาก เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิสฯ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ นอกจากนี้ ลูกค้า Porsche ส่วนใหญ่มักไม่ได้ครอบครองรถเพียงคันเดียว แต่มีความหลงใหลในสมรรถนะและแบรนด์ จนเลือกที่จะมี Porsche ถึง 2-3 คัน ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันที่เหนียวแน่นระหว่างแบรนด์และลูกค้า
Porsche ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์รถยนต์ แต่คือการเติมเต็มความฝัน
Porsche มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและความปรารถนาของผู้ที่หลงใหลในแบรนด์นี้อยู่เสมอ เป้าหมายคือการทำให้ความฝันของเหล่าสาวก Porsche กลายเป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะที่เหนือชั้น เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หรือดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา
วิเคราะห์ตลาด Supercar: Ferrari และ Lamborghini กับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
ในขณะที่ตลาดรถยนต์ทั่วไปต้องเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ แต่ตลาด Supercar กลับแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวที่น่าทึ่ง Ferrari และ Lamborghini เป็นสองตัวอย่างที่ชัดเจน โดยทั้งสองแบรนด์สามารถทำยอดขายเติบโตได้กว่า 30% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
Ferrari: การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยตลาดจีนและฐานลูกค้าใหม่
Ferrari ประกาศผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2021 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตลาดจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน เป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รายได้และกำไรสุทธิของ Ferrari ก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าพอใจ สะท้อนถึงการกลับเข้าสู่ภาวะปกติของธุรกิจ
สิ่งสำคัญคือ Ferrari ไม่ได้พึ่งพากลุ่มลูกค้าเดิมเพียงอย่างเดียว การปรับดีไซน์ให้ทันสมัย การกำหนดราคาที่เข้าถึงได้ และการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ทำให้ Ferrari สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ถึง 60% ที่เลือกรุ่นเริ่มต้น และที่น่าสนใจคือ สัดส่วนลูกค้าผู้หญิงก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
Lamborghini: พลังขับเคลื่อนจาก Super SUV และการฟื้นตัวที่เหนือความคาดหมาย
Lamborghini ภายใต้กลุ่ม Volkswagen ก็แสดงศักยภาพในการฟื้นตัวเช่นกัน โดยมียอดส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 36.8% ในครึ่งแรกของปี 2021 ซึ่งสูงกว่าปี 2019 ด้วยซ้ำ ตัวเลขนี้ยืนยันว่า Lamborghini กลับมาสู่ช่วงเวลาปกติแล้ว
รุ่นที่โดดเด่นและเป็นหัวหอกสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขายของ Lamborghini คือ Urus, Super SUV ที่มียอดขายกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด รองลงมาคือ Huracán และ Aventador ความต้องการรถยนต์ประเภท SUV ที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งตอกย้ำว่า Lamborghini ตัดสินใจถูกต้องที่พัฒนารถยนต์รุ่นนี้ขึ้นมา
เจาะลึกตลาด Supercar ในประเทศไทย: Cavallino Motors และ Renazzo Motor
สำหรับตลาดประเทศไทย Ferrari ดำเนินการโดย บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด โดยในปี 2020 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,163 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5 ล้านบาท ล่าสุดได้เปิดตัว Ferrari Roma ราคาเริ่มต้น 21.23 ล้านบาท พร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.9 ลิตร และมีรถยนต์ Ferrari ให้เลือกถึง 13 รุ่น รวมถึงการทำตลาด Ferrari มือสอง เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
ส่วน Lamborghini ดำเนินการโดย บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในปี 2020 มีรายได้รวม 1,477 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท การเปิดตัว Lamborghini Essenza SCV12 ซึ่งผลิตเพียง 40 คันทั่วโลก ด้วยราคาประมาณ 85 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีไทย) แสดงให้เห็นถึงการนำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษสำหรับนักสะสม
บทสรุป: ตลาด Supercar กับอนาคตที่สดใส
ตลาด Supercar แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่รวดเร็วหลังวิกฤต COVID-19 แม้จะเผชิญความท้าทายจากการขาดแคลนชิป แต่ด้วยราคาที่สูงและความต้องการที่ไม่ลดลงในกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนัก ทำให้ตลาด Supercar กลับมาสู่สภาวะปกติและมีแนวโน้มเติบโตต่อไปในอนาคต
BMW Group ประเทศไทย: ความสำเร็จที่ต่อเนื่องในตลาดรถยนต์พรีเมียม
BMW Group ประเทศไทย ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมได้อย่างแข็งแกร่ง โดยสามารถสร้างสถิติยอดขายประจำไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ BMW และ MINI รวม 2,773 คัน เติบโตขึ้น 42% จากปีก่อนหน้า
BMW: การเติบโตที่ก้าวกระโดดในทุกเซ็กเมนต์
BMW ทำสถิติยอดขายสูงสุดในไตรมาสแรก ด้วยยอดส่งมอบ 2,533 คัน เพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่ม BMW M ที่มีการเติบโตสูงถึง 220% และยอดส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่เพิ่มขึ้น 140% สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์พลังงานทางเลือกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าองค์กรก็มีการเติบโตถึง 124% ขณะที่กลุ่มรถยนต์หรู BMW Luxury และรถยนต์มือสอง BMW Premium Selection ก็ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยอัตราการเติบโตในระดับสองหลัก
MINI: สถิติยอดขายสูงสุดและความเป็นเอกลักษณ์
MINI ประเทศไทย ก็ไม่น้อยหน้า โดยสามารถทำสถิติยอดขายประจำไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยยอดส่งมอบ 240 คัน เติบโตขึ้น 57% สะท้อนถึงเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ MINI ที่ยังคงดึงดูดใจผู้บริโภค
BMW Motorrad: ความแข็งแกร่งที่สม่ำเสมอ
BMW Motorrad ประเทศไทย รักษาผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์รวม 281 คัน แม้จะมีการลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
BMW Group ประเทศไทย: ภาพรวมการเติบโตที่น่าประทับใจ
คุณอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน BMW Group ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2020 เป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ของ BMW Group ประเทศไทย ที่ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของตลาดยานยนต์พรีเมียมไทย และในปีนี้ เราก็ได้สร้างความสำเร็จที่จะต้องจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ อีกครั้งในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดยานยนต์พรีเมียมในไตรมาสแรก ส่วนแบ่งตลาดของเราที่นำอยู่ที่ 48.7% เป็นข้อพิสูจน์ว่าไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด BMW Group จะยังคงยึดมั่นในภารกิจเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับความต้องการทุกด้านของผู้บริโภค”
BMW Group นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ควบคู่ไปกับการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในยุคปัจจุบัน โดยได้เปิดตัวรถยนต์กว่าสิบรุ่นสู่ตลาดประเทศไทย ครอบคลุมเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งระบบขับเคลื่อนแบบดีเซล, เบนซิน, ปลั๊กอินไฮบริด, ระบบไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) รวมถึงรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างตระกูล M
นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
BMW ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากมายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น BMW Series 5, BMW X7 xDrive30d M Sport, BMW 330Li M Sport, BMW M340i xDrive, BMW M4 Competition Coupé และรุ่น M Performance Edition สำหรับ BMW X3 xDrive20d M Sport, BMW X4 xDrive20d M Sport X และ BMW 330e M Sport
MINI ก็ได้สร้างความตื่นเต้นด้วย MINI Cooper S Countryman, MINI John Cooper Works GP Inspired Edition, MINI John Cooper Works Countryman และ MINI Paddy Hopkirk Edition
BMW Motorrad ก็ได้สานต่อตำนานด้วย BMW R 18 Classic First Edition นอกจากนี้ยังได้ต่อยอดประสบการณ์ด้านดิจิทัลด้วยแอป My BMW และ MINI App เพื่อเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ความไว้วางใจจากลูกค้า คือแรงขับเคลื่อนสำคัญ
“ผมต้องขอขอบคุณลูกค้าของ BMW Group ทุกท่าน ที่ได้ให้ความไว้วางใจในทุกแบรนด์ของเรา รวมถึงผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทุกราย ที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในทุกความสำเร็จ ผมมั่นใจว่าเราจะร่วมกันเดินต่อไปบนเส้นทางนี้ได้อย่างยาวไกล เพื่อสานต่อและปูทางสู่ความสำเร็จในตลาดยานยนต์พรีเมียมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้” คุณบารากากล่าว
BMW Group: ผู้นำระดับโลกด้านยนตรกรรม
BMW Group เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BMW, MINI, Rolls-Royce และ BMW Motorrad โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่ง ใน 15 ประเทศ และเครือข่ายผู้จำหน่ายกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปี 2020 BMW Group มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 169,000 คันทั่วโลก
BMW Group ประเทศไทย: ความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดไทย
BMW Group ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
ในปี 2020 BMW Group ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์ BMW และ MINI จำนวน 12,426 คัน โรงงานของ BMW Group Manufacturing (Thailand) เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ BMW Group ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
การผลิตที่รองรับอนาคต: รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและเทคโนโลยีแบตเตอรี่
โรงงาน BMW Group Manufacturing (Thailand) มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ BMW 330e, BMW 530e, BMW X3 xDrive30e, BMW X5 xDrive45e และ BMW 745Le xDrive นอกจากนี้ โรงงานยังเป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของ BMW ในภูมิภาคอาเซียน
Suzuki Jimny: รถยนต์ออฟโรดขนาดเล็กที่สร้างปรากฏการณ์
Suzuki Jimny รถยนต์ออฟโรดขนาดเล็ก ที่เคยสร้างกระแสความต้องการอย่างล้นหลามจนทำให้ยอดจองเต็มยาวข้ามปี และมีราคามือสองพุ่งสูงกว่าราคาป้ายแดง ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Jimny ที่ไม่เหมือนใคร แม้จะมีการปรับราคาขายให้สูงขึ้นและมีข้อจำกัดในการนำเข้าจากญี่ปุ่น ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่แท้จริงได้
เทรนด์ SUV: การเติบโตที่ไม่หยุดนิ่งในตลาดไทย
รถยนต์ SUV (Sport Utility Vehicle) กำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ด้วยไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ความนิยมในการขับรถเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย รถ SUV นับเป็นรถที่ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้ดีที่สุดในยุคนี้ โดยมียอดขายรวมของรถ SUV ในประเทศไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
Great Wall Motor (GWM) และ HAVAL: การรุกตลาด SUV ด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์
Great Wall Motor (GWM) เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป จึงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนารถยนต์และเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด และหนึ่งในนั้นคือการสร้างแบรนด์รถ SUV อย่าง HAVAL ที่ครองใจผู้ใช้จนสามารถขึ้นแท่นเป็นแบรนด์รถ SUV อันดับ 1 ของประเทศจีนติดต่อกันถึง 88 เดือน และกลายเป็น Top 3 แบรนด์รถ SUV ระดับโลก
HAVAL สร้างสรรค์และออกแบบรถ SUV ให้มีความโดดเด่น ทั้งสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยเหนือระดับ พร้อมสไตล์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายในแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็น HAVAL H6, HAVAL Big Dog และรุ่นอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้แทบทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี
อนาคตของ SUV: เทคโนโลยีพลังงานทางเลือกและประสบการณ์ขับขี่อัจฉริยะ
HAVAL ยังใส่ใจในด้านการสร้างประสบการณ์การขับขี่อันยอดเยี่ยม ด้วยการลงทุนมหาศาลด้านการวิจัยและพัฒนาสมาร์ทไดรฟ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบการขับเคลื่อนอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีสามมิติ บริการส่วนบุคคล การสร้างระบบนิเวศ 5G และการสร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Internet of Everything นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาด้านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือก ทั้งการผลิตยานยนต์ไฮบริด (HEV), ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV), รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และการพัฒนารถ SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจนชั้นนำของโลก
Mazda: ความแข็งแกร่งในตลาด SUV ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น
Mazda เป็นค่ายรถยนต์ที่ออกแบบผลิตภัณฑ์มาค่อนข้างสวยงามและมีระดับ โดยเฉพาะในกลุ่ม SUV ที่มีถึง 4 รุ่นในตลาดประเทศไทย ทั้ง CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-8 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการของตลาด SUV ที่กำลังเติบโต
CX-30 เป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ Mazda พัฒนาขึ้นมาเพื่อปิดช่องว่างในตลาด Subcompact SUV ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า CX-3 และใช้พื้นฐานร่วมกับ Mazda 3 ทำให้มีมิติภายในที่กว้างขวางขึ้น พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
อนาคตการตลาดรถยนต์: การปรับตัวเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลง
ปี 2020-2021 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งการฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 การขาดแคลนชิป และการเร่งพัฒนายานยนต์พลังงานทางเลือก แบรนด์ต่างๆ ที่สามารถปรับตัวและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง จะเป็นผู้ที่สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
ถึงเวลาของคุณแล้ว!
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สะท้อนตัวตนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะอันเหนือชั้น สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ หรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ถึงเวลาแล้วที่คุณจะก้าวเข้ามาสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับกับยนตรกรรมที่เรานำเสนอ เราพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำรถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณ หากคุณสนใจรถยนต์ Porsche, BMW, MINI หรือ Supercar สุดหรูจาก Ferrari และ Lamborghini รวมถึงรถ SUV ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใดเป็นพิเศษ อย่ารอช้า! ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษ และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าคำบรรยาย
